
ผู้ต้องหาจัดฉากฆ่า หวังเงินประกัน 14 ล้าน ซัดทอด "พ.ต.ท." มีเอี่ยว
ลึกลับซับซ้อน ผู้ต้องหา ซัดทอด "พันตำรวจโท" มีเอี่ยว จัดฉาก ฆาตกรรมอำพราง หนุ่มวัย 32 ปี หวังเงินประกัน 14 ล้าน ตำรวจ เร่งขยายผล
จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง นายวิเชียร อายุ 32 ปี เพื่อหวังเอาเงินประกันภัย พ.ร.บ.รถยนต์ 14 ล้านบาท แต่ตัวแทนกลุ่มประกันภัย จับพิรุธได้ เลยแจ้งตำรวจตรวจสอบ กระทั่งมีการจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ได้ทั้งหมด 4 ราย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าทางคดี เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2568 พ.ต.อ.จิรโรจน์ โรจน์ภานุพัชร์ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรวิทย์ นนพละ ผกก.สส.ภ.จว.สกลนคร, ฝ่ายสืบสวน สภ.วานรนิวาส และ ชุดสืบสวน ภ.จว.สกลนคร ร่วมประชุมคลี่คลายคดี ขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
จากนั้นช่วงบ่าย พ.ต.อ.วรวิทย์ นนพละ ผกก.สส.ภ.จว.สกลนคร ได้คุมตัว นายพรชนก อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้รายสุดท้าย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดต่างๆ อย่างละเอียด
จุดแรก บริเวณโรงน้ำดื่มของนายพรชนก ตั้งอยู่พื้นที่ ม.10 ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร มีนายสกล นายพรชนก และ นายวิเชียร (ผู้เสียชีวิต) นั่งรถกระบะอีซูซุ สี่ประตู สีขาว ขับออกไปยังร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ไม่ไกลกันจากโรงน้ำดื่ม นายสกล ได้พานายวิเชียร เข้าไปตัดผมในร้านตัดผม และสั่งช่างตัดผมว่าเอาทรงนักเรียน จะพาไปบำบัด ส่วนนายพรชนกและนายสกล นั่งรออยู่ด้านนอกประมาณ 30 นาที
พอตัดผมเสร็จนายสกล จึงขับรถพานายวิเชียร และนายพรชนก ไปร้านสะดวกซื้อ นายสกล ลงไปซื้อเสื้อผ้า โดยนายวิเชียรนั่งรออยู่บนรถ ส่วนนายพรชนก รออยู่ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นทั้งหมดก็กลับมาที่โรงน้ำดื่ม ซึ่งนายสกล เปลี่ยนเป็นชุดสีดำ เพื่อแต่งตัวให้คล้ายกับนายวิเชียร ซึ่งนายวิเชียรก็เปลี่ยนชุดสีดำเช่นกัน
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายสกล นายพรชนก และนายวิเชียร พากันไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านบัวชมภู ซึ่งเป็นร้านปลาจุ่ม ระหว่างนั้นก็สนทนาตามปกติทั่วไป นายพรชนก เห็นนายวิเชียร มีอาการเซื่องซึมเชื่องช้า ซึ่งขณะนั้นนายวิเชียรดื่มเหล้า และรับประทานอาหารอยู่ สักพักเวลาประมาณ 6 โมง เย็น เสียงโทรศัพท์ของนายกสกล ดังขึ้น โดยเสียงปลายสายคือนายพีรพัฒน์ อ้างว่ารถเสียให้มาดูหน่อย
จากนั้นนายสกลก็สั่งเก็บเงิน โดยนายพรชนก ยังสังเกตเห็นอีกว่า นายวิเชียร มีอาการมึนเมาและขอไปนั่งเบาะหลังของรถกระบะ อีซูซุ สี่ประตู สีขาว ที่ขับกันมา โดยนายสกล ให้นายพรชนกไปขับ และอ้างว่าขอไปนั่งท้ายกระบะเพราะอยากดูดบุหรี่ เมื่อรถขับสี่แยกหนึ่งที่มีกล้องวงจรปิดไป นายสกล ที่อยู่ท้ายกระบะเคาะกระจกเรียกให้นายพรชนกจอด และสลับกันขับ อ้างว่าหนาวจะขอขับเอง เพราะนายพรชนกขับช้า
เวลาพลบค่ำ เมื่อขับมาถึงจุดรวมพลจุดที่หนึ่ง เห็นรถยนต์กระบะคอกขนน้ำดื่มสีขาว 2 คัน จอดรออยู่ริมถนนอยู่แล้ว นายสกลกับนายพรชนก เดินลงจากรถลงไปข้างทาง ปล่อยให้นายวิเชียรอยู่บนรถกระบะ สี่ประตู สีขาว คนเดียวที่จอดริมทางเช่นกัน พอลงมาถึงพบว่ามี นายพีรพัฒน์ นายพรชนก ยืนรออยู่แล้ว พร้อมกับสังเกตตเห็นรถกระบะตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 1 นาย ยืนอยู่ข้างรถ โดยไม่พูดจาอะไรคล้ายมาสังเกตการณ์ รวมไปถึงสังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงที่เรียกติดปากกันว่าคุณนาย นั่งมาในรถกระบะด้านซ้ายด้วย
ระหว่างรวมตัวกันนายสกลก็แบ่งหน้าที่ว่าใครทำอะไรอย่างไรบ้าง พร้อมกับบอกว่าจะจัดการนายวิเชียร โดยญาตินายวิเชียรเขาไม่ว่าอะไร ตอนนี้เอง นายสกล ก็หันมาถามนายพรชนก ว่าเอาด้วยไหม แต่เหมือนตกกระไดพลอยโจรไปแล้ว และเห็นมีแต่พวกของนายสกล จึงหวาดกลัว นายสกลจึงให้นายพรชนก ไปขับรถกระบะ สี่ประตู สีขาว ไปกับนายสมศักดิ์ ส่วนนายวิเชียรนั่งเบาะหลัง
ขณะเดียวกันนายสกล คนจัดแจงได้ขับรถกระบะคอกเปล่าออกไปจากจุดรวมพล แล้วนายพรชนก นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยนายวิเชียร ก็ขับรถออกไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นจุดนัดหมายจุดที่สอง บริเวณหลัก กม.15 ทั้งสามคนประกอบด้วย นายสมศักดิ์ นายพรชนก นายวิเชียร ก็พากันเดินลงมาปัสสาวะ ขณะที่นายวิเชียร นั่งมึนงงอยู่หน้ารถกระบะ
ทันใดนั้นนายสมศักดิ์ ก็ลากนายวิเชียร ลงไปนอนคว่ำหน้าลงขวางถนน ทิ้งนายวิเชียรไว้คนเดียว จากนั้นนายสมศักดิ์ และนายพรชนก ขับรถออกไป เจอกันที่จุดนัดพบจุดที่ 3 ห่างจากจุดทิ้งนายวิเชียรไปประมาณ 500 เมตร
ทั้งนี้ไปสอดคล้องกับคำให้การของนายพีรพัฒน์ ที่ให้การก่อนหน้านี้ (ให้การสารภาพและถูกฝากขังแล้ว) ว่าเมื่อได้รับสัญาณแล้ว จึงให้ขับรถกระบะมีคอกน้ำขับมาเหยียบชนนายวิเชียรได้เลย จากนั้นนายพีรพัฒน์ อ้างว่าได้หลับตากลั้นใจขับไปชน แต่ไม่รู้ชนโดนนายวิเชียรหรือไม่ พอนายพีรศักดิ์ มาเจอกันตรงจุดที่ 3 ก็บอกทุกคนว่าไ ด้ขับรถชนนายวิเชียร แต่นายสกลกับนายสมศักดิ์ เหมือนไม่มั่นใจอะไรซักอย่างได้ขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ สี่ประตู สีขาวคันแรก ที่พานายวิเชียรไปทิ้ง ขับวนกลับไปดูจุดเกิดเหตุ หลัก กม.15 อีกครั้ง
ตอนนี้นายพรชนก ไม่ทราบว่านายสกล และนายสมศักดิ์ กลับไปทำอะไร เหลือแต่นายพีรพัฒน์ กับนายพรชนก ใช้อุปกรณ์เหล็กเชื่อมติดกันระหว่างรถกะบะคอกเปล่ากับรถกระขนน้ำ จากนั้นยังยืนรออยู่จุดนัดพบที่สาม ประมาณ 1 ชม. ต่อมามีเพียงนายสมศักดิ์ กลับมาคนเดียวพร้อมรถกระบะ อีซูซุ สี่ประตู สีขาว แต่ไม่ทราบว่านายสกล ที่ไปด้วยกับนายสมศักดิ์ หายไปไหน