
ล่าตัว นศ. 2 สถาบันยกพวกตีกันกลางห้างดัง มีข้อมูลรุ่นพี่หัวโจก
รองนพศิลป์ ล่าตัว แก๊งนศ. 2 สถาบันยกพวกตีกันกลางห้างดัง ยอมรับมีรุ่นพี่ที่เคยถูกดำเนินคดีปลูกฝังรุ่นน้อง เตือนหยุดพฤติกรรม
24 มี.ค. 2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 พร้อมชุดสืบสวนนครบาล และบก.น.6, สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือกับตัวแทนสถานศึกษาห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์และปทุมวัน หลังจากเกิดเหตุนักศึกษา 2 สถาบัน ยกพวกตีกันกลางห้างดังย่านปทุมวัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดพบกลุ่มนักศึกษากลุ่มแรกฯ เข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า เวลาประมาณ 16.00 น. จํานวน 29 คน ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. ฝั่งนักศึกษาอีกกลุ่มได้ยกพวกเข้ามาจํานวน 44 คน เพื่อออกล่าหาคู่อริก่อนจะก่อเหตุขึ้น ได้ส่งภาพให้ทางอาจารย์ฝ่ายปกครองของทั้ง 2 สถาบันไปตรวจสอบว่า ปัจจุบันยังเป็นนักศึกษาอยู่หรือพ้นสภาพไปแล้ว เพื่อจะดําเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ตํารวจทราบแล้วว่า ใครคือผู้ใช้อาวุธมีดในการก่อเหตุ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดําเนินคดี ส่วนนักศึกษา 4 คน ที่จับกุมได้นั้น มีการแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาท และปรับ ก่อนปล่อยตัวไป แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุเพิ่มก็จะเรียกเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาและดําเนินคดีเพิ่มเติม
เบื้องต้น ตํารวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าจะเกิดจากการยั่วยุหรือสมัครใจก็ตาม ส่วนการแก้ไข้ปัญหาระยะยาวทางตํารวจจะประสานไปยังกระทรวง อว. เพื่อทํา MOU ระหว่าง 2 สถาบันเพื่อร่วมกันวางมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า เท่าที่ทราบก่อนหน้านี้ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุทางนักศึกษาอุเทนฯ สามารถใช้ได้ตามปกติ ส่วนฝั่งโฮมโปร โลตัส จะเป็นนักศึกษาปทุมวันที่เข้าไปใช้บริการ ส่วนสกายวอล์คถือเป็นจุดเซฟโซนจะต้องไม่มีการก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงภายนอกที่รู้ร่วมกันดีของนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน แต่ปัจจุบันกลับมีเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้น ทําให้ตํารวจต้องเพิ่มมาตรการเพิ่มขึ้นในการนํากําลังเจ้าหน้าที่มากดดันทุกวันประมาณ 30-40 นาย ประกอบกับช่วงนี้ทั้ง 2 สถาบันมีการสั่งหยุดเรียนจนถึงปลายเดือนเมษายน หากตํารวจพบว่ามีนักศึกษาเข้ามาในพื้นที่ลักษณะมั่วสุ่มจะเข้าตัวค้นอาวุธทันทีและหากมีการกระทําผิดก็จะดําเนินคดีตามกฎหมายพร้อมประสานไปยังสถาบันพิจารณาลงโทษทางวินัยและปกครอง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้ทําการเชิญตัวแทนจาก 3 ห้างสรรพสินค้า เจ้าหน้าที่ รปภ. ของรถไฟฟ้าและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขอความร่วมมือในการติดต่อประสานงานการแจ้งเหตุรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาที่จะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เสี่ยง เบื้องต้นทาง ผบก.น.6 ได้กําหนดจุดเสี่ยง 13 จุด โดยให้ทางฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนตรวจเข้มขึ้นในการป้องกันเหตุ เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าและนักท่องเที่ยว รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศ ทางกองบัญชาการตํารวจนครบาล จึงเพิ่มมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซํ้าซาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีกลุ่มคนที่เคยถูกจับกุมไปแล้วเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทาง พล.ต.ต.นพศิลป์ ยอมรับว่า มีจริง ซึ่งเข้ามาดูแลและปลูกฝังรุ่นน้องในทางที่ผิด จึงขอให้หยุดพฤติกรรมเสีย พร้อมฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของท่าน หากเกิดเรื่องจะต้องติดคุก ติดตะรางและหมดอนาคต ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการยกพวกมาเอาคืนกันในวันนี้นั้น ด้านการข่าวยังไม่มีรายงานเข้ามา
ขณะที่ตัวแทนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ระบุว่า อยู่ระหว่างประเมินความเสียหาย เบื้องต้น พบมี 5 ร้านค้า ได้รับผลกระทบ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางห้างสรรพสินค้ามีการตรวจอาวุธอยู่ตลอดรวมถึงการปิดประตูป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่ แต่ยืนยันว่าจะมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้นหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ในส่วนของการแจ้งความดําเนินคดีได้มอบหมายให้ทนายความดําเนินการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง คาดจะเดินทางเข้ามาแจ้งความภายในวันพรุ่งนี้ ที่ สน.ปทุมวัน