บึ้มสนั่น คนร้ายลอบวางระเบิด โรงนอนทหารพรานในวัด เจ็บ 4 นาย | คมชัดลึก

13 เม.ย. 2568 เวลา 06.45 น.  ร.ต.อ.ปัญญรัตน์ พงศ์ชินฤทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณข้างกำแพงรั้ววัดชัยรัตนา หรือ วัดบ้านไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงนอน ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4503 กรมทหารพรานที่ 45 ซึ่งตั้งอยู่บ้านไทย ม.3 ต.ตันหยงมัส จึงพร้อมด้วย 

• พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส 
• พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส 
• พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส 
• พ.ต.อ.ศุภชัช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ระแงะ 
• เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด 
• นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส 
• เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส
   

และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องใช้สุนัขสงคราม ดมกลิ่นในการดมกลิ่นวัตถุต้องสงสัย พร้อมเปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และวิทยุสื่อสารในการเคลียร์พื้นที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จึงได้เข้าตรวจสอบ 

พบกำแพงรั้วของวัดถูกอนุภาพระเบิดได้รับความเสียหาย จำนวน 2 ล็อก ยาวประมาณ 10 เมตร ส่วนภายในกำแพงรั้ววัดซึ่งเป็นบ้านน็อกดาวน์ จำนวน 1 หลัง ที่มีการใช้สำหรับเป็นโรงนอน คลังเก็บอาวุธและมีการต่อเติมเป็นโรงครัว ถูกอนุภาพของระเบิดอาคารน็อกดาวน์ได้รับความเสียหายทั้งตัวของอาคารและหลังคา และที่ได้รับความเสียหายหนักสุดคือในส่วนของอาคารที่ได้มีการต่อเติมเป็นโรงครัว ถือว่าถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ตกกระจายเกลื่อนในรัศมี 100 เมตร 

นอกจากนี้ที่บริเวณบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ของ น.ส.สุธาสินี (สงวนนามสกุล) ที่ให้ น.ส.สาวิณ (สงวนนามสกุล)เช่าอยู่กับสามี ถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย กระจกประตูหน้าต่างแตก กันสาดและหลังคาบ้านรวมถึงฝ้าเพดานทรัพย์สินภายในบ้านเสียหาย 

 

และมีบ้านของชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังของบ้านเช่าหลังนี้ อีก 2 หลัง ถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายกระจกหน้าต่าง หลังคาได้รับความเสียหายไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหาร ได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลระแงะ ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ 

 

 

1.อส.พ.มะซับรี (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีอาการแน่นหน้าอกและเจ็บซี่โครงข้างซ้าย 
2. อส.ทพ.จักรณรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ  30 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส มีอาการแน่นหน้าอก 
3. อส.ทพ.เศรษฐศาสตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ  26 ปี ที่อยู่ ม.6 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง มีอาการแน่นหน้าอก แ
 4. อส.ทพ.อายือมิง (สงวนนามสกุล) อายุ  39 ปี ที่อยู่ ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส มีแผลจากสะเก็ดบริเวณที่บริเวณแผ่นหลังด้านซ้าย เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งตัว อส.ทพ.มะซับรี และ อส.ทพ.อายือมิง รักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 

ส่วน อส.ทพ.จักรณรงค์ และ อส.ทพ.เศรษฐศาสตร์ เมื่อทำการปฐมพยาบาลแล้ว อนุญาตให้กลับรักษาตัวที่ฐานฯ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 1 คน ขี่รถ จยย.ผู้หญิงแบบพ่วงข้าง โดยมีการบรรทุกซุกซ่อนวัตถุระเบิดที่ประกอบใส่ไว้ในถังแกสหุ้มต้ม หนัก 50 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากวงจรไอ.ซี.ไทม์เมอร์ บรรจุใส่ในถุงปุ๋ยสีขาวอีกชั้นหนึ่งมาบนรถ เพื่อเป็นการอำพรางเจ้าหน้าที่และประชาชนพบเห็น 

และมีคนร้ายอีก 1 คน ขี่รถ จยย.แบบผู้หญิงไล่หลังกันมา จากถนนหมู่บ้านบูโล๊ะกาเด็ง ม.12 เมื่อถึงเป้าหมายคนร้ายได้จอดรถ จยย.พ่วงข้างที่บริเวณข้างกำแพงรั้วของวัดบ้านไทย  ซึ่งภายในกำแพงรั้ววัดเป็นที่ตั้งบ้านน็อคดาวน์ ที่ใช้เป็นโรงนอนของเจ้าหน้าที่ทหารพราน แล้วคนร้ายได้เดินขึ้นไปซ้อนท้าย รถ จยย.ของคนร้ายอีก 1 คน ที่ขี่ตามหลังกันมา ที่ทำหน้าที่รับคนร้ายที่ก่อเหตุหลบหนี 

 

โดยวกกลับมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเดิม จนต่อมาผ่านไปประมาณ 1 ถึง 2 นาที จึงได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้กำแพงรั้วของวัดซึ่งเป็นอิฐบล๊อบฉาบปูนซิเมนต์ได้รับความเสียหายจนพัง จำนวน 2 ล็อก เจ้าหน้าที่หน้าที่ทหารพรานที่อาศัยอยู่ในโรงนอนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และเจ้าหน้าที่ทหารที่เป็นพ่อครัวอยู่ภายในโรงครัว ได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย รวมเป็น 4 นาย อาคารน๊อกดาวน์ได้รับความเสียหาย และมีฝาผนังรวมทั้งหลังคาของโรงครัวถูกอนุภาพระเบิดได้รับความเสียหาย 

นอกจากนี้อนุภาพของระเบิดยังทำให้บ้านเช่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ และบ้านของชาวบ้านอีก 2 หลัง ที่ปลูกสร้างอยู่หลังบ้านเช่า ได้รับความเสียหายทั้งกระจกประตูหน้าต่าง หลังคาฝ้าเพดานและทรัพย์ภายในบ้านบางส่วนได้รับความเสียหายไปด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า บนถนนมายังจุดเกิดเหตุ พบคนร้ายจำนวน 1 คน ขี่รถ จยย.ผู้หญิงต่อแบบพ่วงข้าง โดยสังเกตุเห็นมีการบรรทุกซุกซ่อนวัตถุระเบิดใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ยสีขาว ขี่มุ่งหน้ามาจากถนนเลียบกำแพงรั้วของวัดยังจุดเกิดเหตุ และมีคนร้ายอีก 1 คน ต้องสงสัยทำหน้าที่ขี่รถ จยย.มารับคนร้ายหลบหนี 

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุ ไปยังเส้นทางที่หลบหนีที่คนร้ายได้ขี่รถ จยย.วกกลับไปทางเดิม ด้าน พล.ท. ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้เดินสำรวจความเสียหายที่บริเวณภายในบ้านน็อกดาวน์ และบ้านเช่าฝั่งตรงกันข้ามจุดเกิดเหตุ พบว่า บริเวณที่เดินสำรวจได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง พร้อมเน้นย้ำให้ พ.อ.สุรศักดิ์ ผบ.ฉก.ทพ.45 เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนที่สัญจรไปมาในพื้นที่ คาดการกระทำดังกล่าว กลุ่มคนร้ายหวังก่อกวนสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์