
ศาลออกหมายจับ "ฝรั่งเตะหมอ" แล้ว หลังพบหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา
ศาลออกหมายจับ "เดวิด" ฝรั่งเตะหมอ หลังฝ่ายเหยื่อยื่นอุทธรณ์ แต่คู่กรณีหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา มีข้อมูลเดินทางออกนอกประเทศ ประกาศขายปางช้าง
จากกรณี "นายเดวิด" นักธุรกิจชาวต่างชาติ เจ้าของปางช้างแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงธารดาว จันทร์ดำ หรือ หมอปาย ด้วยการเตะบริเวณหลังขณะนั่งเล่นอยู่บริเวณบันไดหน้าวิลล่าหรูของผู้ก่อเหตุ ริมชายหาดยามู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 จนเป็นคดีดังและอยู่ในความสนใจของประชาชน ต่อมา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
ขณะเดียวกันอัยการและนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อาสาเป็นทนายความให้กับหมอปาย และได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 โดยเมื่อวานนี้ 20 เม.ย. 2568 ศาลนัดอ่านคำพิพากษา
นายนิพิฏฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากศาลชั้นต้นยกฟ้องในคดีดังกล่าว คุณพ่อของคุณหมอได้พบและขอให้เป็นทนายให้ ตนรับเป็นทนายให้กับคุณหมอ แต่มีเงื่อนไขว่าจะไม่รับค่าตอบแทน เพื่อให้หมอคิดว่าความยุติธรรมยังเข้าถึงได้ มีอยู่จริงและสามารถหาเจอ จึงยื่นอุทธรณ์ ขณะเดียวกันทางอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ด้วย และศาลอุทธรณ์ได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ 21 เม.ย. แต่จำเลยและทนายไม่มา มีเพียงผู้รับมอบอำนาจมารับฟัง ซึ่งศาลมองว่าจำเลยหลบหนี จึงได้ออกหมายจับ และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค. ที่จะถึงนี้
นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า การยื่นอุทธรณ์นั้น ได้อ่านรายละเอียดเยอะมาก โดยศาลชั้นต้นใช้ข้อความในการยกฟ้องว่า มีข้อสงสัยยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย ด้วยมีความก่ำกึ่งระหว่างผิดกับถูก ตนจึงยื่นอุทธรณ์ในเรื่องความสมเหตุสมผลของคดี ซึ่งดูจากน้ำหนักคำให้การของคุณหมอและเพื่อน ซึ่งเป็นหมอด้วยกันนั้น มีความสมเหตุสมเหตุว่า หากเขาไม่ถูกทำร้าย เขาจะแจ้งความได้อย่างไร และมีบาดแผลจริงๆ ซึ่งเขาเห็นว่า มีคนเดินมาข้างหลัง และได้ยินเสียงดังปึ๊ก จึงหันไปดู เขาไม่รู้ว่าเป็นการเตะด้วยหัวเข่าหรือส่วนไหน แต่รู้ว่าโดนกระทบที่ด้านหลังและบาดเจ็บ จึงวินิจฉัยว่า หมอไม่เห็น แต่สิ่งที่รู้ คือ เขาบาดเจ็บจากคนที่เดินมาข้างหลัง
ศาลพิจารณาว่า เมื่อมองไม่เห็นก็ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย จึงอุทธรณ์ไปว่า หมอเป็นผู้หญิงและมีอายุ 20ปีกว่าๆ และมีการแจ้งความในวันนั้นว่า ถูกทำร้ายและมีบาดแผล ซึ่งไม่น่าจะคิดเป็นอื่นว่า บาดแผลมาจากไหน เมื่อมีการนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จำเลยไม่ได้มาฟังคำพิพากษา เบื้องต้นเท่าที่ทราบมา จำเลยได้ออกต่างประเทศไปแล้ว ส่วนจะหลบหนีหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ในทางกฎหมายศาลใช้คำว่า "หลบหนี" จึงออกหมายจับ
นอกจากนี้ตนยังได้รับทราบข้อมูลด้วยว่า จำเลยได้ประกาศขายปางช้างไปแล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่ขอยืนยัน ต้องตรวจสอบกันอีกครั้ง ซึ่งการยื่นอุทธรณ์นั้นตนค่อนข้างมั่นใจ ในความสมเหตุสมผลของพยานส่วนที่จำเลยอ้างว่าเขาได้รับบาดเจ็บนั้น เนื่องจากสะดุดบันไดและมีบาดแผลแต่มีการแจ้งความหลังจากนั้นหลายวัน แสดงว่าไปที่เกิดเหตุจริงและสะดุดจริง จึงคิดว่าพยานของฝ่ายคุณหมอมีน้ำหนักมากกว่า และจากการคุยกับคุณหมอหลังทราบผลบอกว่า ยังเครียดๆ อยู่บ้างจนกว่าจะอ่านคำพิพากษา แต่ตนได้บอกไปแล้วว่าไม่ต้องเครียด
สำหรับคดีดังกล่าว นับเป็นคดีดังเมื่อปี 2567 สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมาก จากการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะของชาวต่างชาติ จนกระทั่งมีการประท้วงขับไล่ชาวต่างชาติคนที่ก่อเหตุ รวมทั้งเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการทำธุรกิจ การจัดตั้งมูลนิธิ และตรวจพบการครอบครองอาวุธปืน และมีการตรวจสอบพบการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง จนนำไปสู่การพิจารณาเพิกถอนวีซา แต่ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อนผลักดันออกนอกประเทศ กระทั่งศาลชั้นต้นพิจารณายกฟ้อง และมีการอุทธรณ์ แต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา และศาลมีการออกหมายจับ พร้อมเลื่อนอ่านคำพิพากษาดังกล่าว