
คุม 3 คนไทย กก. "ไชน่าเรลเวย์" ฝากขัง พบการเงินไม่สอดคล้องตำแหน่ง
ดีเอสไอคุม 3 นอมินีไทย กรรมการ "ไชน่าเรลเวย์" ฝากขัง พบสถานะการเงินไม่สอดคล้องตำแหน่ง ทั้งหมดปฏิเสธตอบคำถาม
22 เม.ย. 2568 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำตัวผู้ต้องหาชาวไทย จำนวน 3 ราย กรรมการของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด ประกอบด้วย
- นายโสภณ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2390/2568 ลงวันที่ 18 เมษายน 2568
- นายประจวบ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2391/2568 ลงวันที่ 18 เมษายน 2568
- นายมานัส (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2392/2568 ลงวันที่ 18 เมษายน 2568
ผุ้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าวในธุรกิจที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา โดยวันนี้เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 3 คน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก
ระหว่างคุมตัวนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายประจวบ ว่ามีสิ่งใดอยากปฏิเสธหรือไม่ และได้เข้าไปนั่งเป็นนอมินีให้บริษัทจริงหรือไม่ หรือยืนยันว่า เข้าไปบริหารเองจริง ๆ หรือมีใครบังคับให้เข้าไปนั่งตำแหน่งนั้นหรือไม่
ส่วนนายมานัส ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกว่า มีอะไรอยากพูดหรือไม่ ขณะที่ นายโสภณ ผู้สื่อข่าวก็ได้ถามอีกว่า ได้เข้าไปถือหุ้นจริงหรือไม่ หรือมีใครบังคับให้ต้องพูดอะไรหรือไม่ รวมถึงในวันที่ตึก สตง. ถล่ม ทุกคนไปอยู่ที่ไหนกันมา หนีไปอยู่ที่ไหน มีใครให้ที่พักพิงหรือไม่ หรือเหตุใดก่อนหน้านี้ไม่ยอมมาเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น แต่ทั้ง 3 ผู้ต้องหาก้มหน้ารับฟังคำถามอย่างเดียว ไม่เอ่ยปากตอบคำถามใดกับผู้สื่อข่าว
ก่อนที่เจ้าหน้าที่คุมตัวขึ้นรถตู้เอนกประสงค์ 2 คัน ออกจากอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปยังศาลอาญารัชดาภิเษก
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนสอบสวน กรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มฯ เป็นคดีพิเศษที่ 32/2568 ในประเด็นเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เนื่องจากพบข้อเท็จจริงว่ากรรมการของนิติบุคคลของบริษัท china railway number 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีการจดทะเบียนเป็นกิจการร่วมค้าฯ กับนิติบุคคลของประเทศไทย ในนามกิจการร่วมค้า ITD-CREC และเข้าเป็นคู่สัญญาก่อสร้างนั้น มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้น ร้อยละ 51
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า บุคคลสัญชาติไทยดังกล่าวจำนวน 3 คน มีการเข้าไปเป็นกรรมการและถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ ร้อยละ 51 ร่วมกับนิติบุคคลต่างชาติอีกเป็นจำนวนมาก ไม่สอดคล้องกับสถานะทางเศรษฐกิจของแต่ละคน โดยนายโสภณฯ มีชื่อเป็นกรรมการของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด ร่วมกับนายจาง (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาสัญชาติจีน ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2568 และได้ทำการฝากขังต่อศาลอาญาไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
นายโสภณ มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 40.80% , นายประจวบ ถือหุ้น 10.20% หรือ 102,000 หุ้น และนายมานัส ถือหุ้นเพียง 3 หุ้น