ข่าว

ตาวัย 81 ถูกมิจฉาชีพ โทรตื้อ 4 วัน หลงโอนเงิน 4.4 ล้าน ตร.ยึดทัน 2 ล้าน

ตาวัย 81 ถูกมิจฉาชีพ โทรตื้อ 4 วัน หลงโอนเงิน 4.4 ล้าน ตร.ยึดทัน 2 ล้าน

22 เม.ย. 2568

แก๊งมิจฉาชีพ โทรข่มขู่ตาวัย 81 ปี นาน 4 วัน จนเหยื่อหลอกเชื่อโอนเงิน 4.4 ล้าน ตร.ตามจับได้ 4 ราย หนี 1 ราย ยึดเงินในบัญชีทันได้เพียง 2 ล้าน

22 เม.ย. 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ลุยโปรเจค “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” กุมผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 4 ราย ได้แก่ น.ส.ศศธร อายุ 34 ปี, นายวิทิตย์ อายุ 52 ปี, นายธนกร อายุ 22 ปี และนายอภิรักษ์ อายุ 20 ปี และยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีกจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องหาบัญชีม้าแก๊งอ้างเป็นตำรวจ โทรข่มขู่เหยื่อเป็นชายวัย 81 ปี ยาวนาน 4 วัน หลอกโอนเงิน 4,400,000 บาท

 

เหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพโทรหาโดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก แจ้งว่า ผู้เสียหายเปิดบัญชีธนาคารไว้ บัญชีดังกล่าวกระทำผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งมีนักเรียนถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหายจำนวน 45,000 บาท ทำให้นักเรียนคนดังกล่าวเกิดความเครียด จนตัดสินใจฆ่าตัวตาย

ตาวัย 81 ถูกมิจฉาชีพ โทรตื้อ 4 วัน หลงโอนเงิน 4.4 ล้าน ตร.ยึดทัน 2 ล้าน

ต่อมา ผู้เสียหายหลงเชื่อมิจฉาชีพ จึงแนะนำให้แอดไลน์ชื่อบัญชี "สภ.เมืองพิษณุโลก" เพื่อให้ผู้เสียหายติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ปปง. เมื่อแอดไลน์แล้ว มิจฉาชีพได้ส่งหมายศาล หมายตำรวจ และบัตรเจ้าพนักงานตำรวจ ให้ผู้เสียหายดู พร้อมกำชับว่า ห้ามเปิดเผยหรือแจ้งบุคคลใกล้ตัว เนื่องจากเป็นความลับของทางราชการ

 

จากนั้น มิจฉาชีพ ข่มขู่ผู้เสียหายว่า ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการโอนเงินไปให้ตรวจสอบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินดังกล่าว เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบแล้ว เงินดังกล่าวจะถูกโอนกลับคืนให้ นอกจากนี้มิจฉาชีพยังใช้วิธีพูดข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ยอมให้ผู้เสียหายวางสายโทรศัพท์ จนมีการคุยต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกือบ 4 วัน ผู้เสียหายหลงเชื่อและเกิดความกลัว สุดท้ายยอมโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ที่มิจฉาชีพส่งมาให้ จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,400,000 บาท

ตาวัย 81 ถูกมิจฉาชีพ โทรตื้อ 4 วัน หลงโอนเงิน 4.4 ล้าน ตร.ยึดทัน 2 ล้าน

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จนพบว่า มีผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายราย โดยมีผู้ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า จำนวน 5 ราย จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรี จนกระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายอภิรักษ์ 1 ในผู้ต้องหาไว้ได้ จำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ประสานทางธนาคาร เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าบัญชีดังกล่าว มีเงินของผู้เสียหายรายนี้เพียงยอดเดียว จำนวน 2 ล้านบาท ได้ถูกโอนเข้ามาในบัญชีของ นายอภิรักษ์ ตามวันและเวลา ตรงตามหลักฐานของผู้เสียหาย จึงเป็นการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ยอดเงินดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายรายนี้จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานทางธนาคารเพื่อขอตรวจยึดเงินซึ่งเป็นทรัพย์ถูกประทุษร้ายของผู้เสียหาย

 

ในส่วน นายอภิรักษ์ นั้น ยอมรับว่า ได้เปิดบัญชีธนาคารแล้วขายบัญชีไปในราคา 3,000 บาท หลังจากการเปิดบัญชี ตนก็ไม่ได้ใช้บัญชีดังกล่าวอีกเลย กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัว จึงทราบว่าบัญชีของตนเองถูกนำไปใช้ ในการกระทำผิด และตนเองขอไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์เงินในบัญชีธนาคารจำนวน 2 ล้านบาท เนื่องจากตนเองรู้ดีว่าเป็นเงินที่ตนเองไม่มีสิทธิที่จะได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และยินดีคืนให้แก่ผู้เสียหายในคดีนี้

 

สุดท้ายนั้น พนักงานสอบสวนจึงประสานทางธนาคาร ขอถอดอายัดและนำเงินจำนวน 2 ล้านบาท คืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในวันนี้ ตามโครงการ “Money Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”

 

ตาวัย 81 ถูกมิจฉาชีพ โทรตื้อ 4 วัน หลงโอนเงิน 4.4 ล้าน ตร.ยึดทัน 2 ล้าน