ข่าว

ก.ล.ต. สั่งปรับ "แอนจักรพงษ์-JKN" 4.1 ล้าน ปมขายธุรกิจนางงามฯ

ก.ล.ต. สั่งปรับ "แอนจักรพงษ์-JKN" 4.1 ล้าน ปมขายธุรกิจนางงามฯ

22 เม.ย. 2568

ก.ล.ต. สั่งปรับ "แอนจักรพงษ์-JKN" 4.1 ล้านบาท พร้อมห้ามเป็น ฮฎฯ 56 เดือน กรณีแพร่ข้อมูลเท็จขายธุรกิจนางงามจักรวาล

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผย การดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแห่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็นโกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (JKN) และนายจักรพงษ์ จักราจฑาธิบดิ์ กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรืออาจก่อให้ให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสาคัญเกี่ยวกับขับข้อมูลของ JKN โดยให้ชำระเงินตาม มาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 4,124,078 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามผู้กระทำความผิด 1 ราย เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร


ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนเมษายน 2567 และตรจสอบเพิ่มเติม พบว่า เมื่อวันที่ 22 มคราคม 2567 เวลา 14.00 น. JKN โดยนายจักรพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศของ JKN ได้เปิดเผยผ่านระบบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบSETLink) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ JKN ชี้แจงกรณีปรากฏข่าวบนสื่อออนไลน์ว่า JKN ได้ขายธุรกิจองค์กรนางงางามจักรวาล (Miss Universe Organization: MUO) ให้แก่ นายราอูล โรซา เศรษฐีชาวเม็กซิกัน ซึ่ง JKN ชี้แจงโดยสรุปว่า JKN ได้มีการดำเนินการหาและติดต่อนักลงทุนหลากหลายราย และได้ศึกษารายละเอียดข้อเสนอลงทุนของนักลงทุนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว
 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงเวลานั้น JKN โดย JKN Global Content Pte. Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JKN ได้ดำเนินการขายหุ้นของ JKN Legacy, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล และครอบครองลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล (Miss Universe) ได้แก่ Legacy Holding Group USA Inc. ในจ่านวนร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมด โดยเข้าทำสัญญาณซื้อขายเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 

 

นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อมูลว่า Legacy Holding Group USA Inc. มีนายราอูล โรชา เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดังนั้น ข้อความที่ JKN เผยแพร่ดังกล่าว จึงไม่ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงหรืออาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับบข้อมูลของ JKN โดยประการที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อการตัดสิ้นใจลงทุนในหลักทรัพย์ JKN
 

การกระทำของ JKN เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัทย์ฯ) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรรคหนึ่ง และมาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน โดยนายจักรพงษ์ ในฐานะเป็นบุคคล ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล กระทำการเป็นเหตุให้ JKN กระทำควาความผิดในกรณีข้างต้น จึงต้องรับโทษเดียวกันตามมาตรา 300 ประกอบมาตรา 240 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ


คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่าย เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินรายละ 2,062,039 บาท และห้ามนายจักรพงษ์เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักหรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 56 เดือน

 

มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลเมื่อผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแห่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแห่ง เพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ.กำหนด

 

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง