
อุบัติเหตุหมู่ดับสลด 8 ศพ! เก๋งจอดเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็ก ถูกรถบรรทุกยางมะตอยชนอัดก็อปปี้
อุบัติเหตุหมู่ดับสลด 8 ศพ! เก๋งจอดเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็ก ถูกรถบรรทุกยางมะตอยชนอัดก็อปปี้ เผยกำลังเดินทางไปหาญาติที่ระยอง
24 เม.ย. 2568 เวลา 22.10 น. ศูนย์วิทยุพระนคร ได้รับรายงานอุบัติเหตุหมู่ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถยนต์เก๋ง และดันไปอัดก็อปปี้เสยท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ติดอยู่ภายในซากรถ บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วง หลักกิโลเมตรที่ 23+500 ขาออก มุ่งหน้าบ้านฉาง จ.ชลบุรี ก่อนถึงด่านลาดกระบัง ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 เจ้าหน้าที่สมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางซ้าย ซึ่งเป็นจุดจอดรถฉุกเฉิน พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 73-1430 ชลบุรี บรรทุกยางมะตอย สภาพหน้าพังยับเยิน ภายในห้องโดยสารพบ นายเสน่ห์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี นั่งอยู่เบาะคนขับ ถูกอัดติดอยู่กับพวงมาลัยได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำตัวออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
ที่ด้านหน้ารถชนติดอยู่กับรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อ เชฟโรเลต แคปติวา สีขาว ทะเบียน 6161 อุดรธานี สภาพพังยับเยินทั้งคัน ภายในห้องโดยสารพบผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย ติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ใช้เครื่องตัดถ่างทยอยนำร่างออกมา ดังนี้
- รายที่ 1.เป็นเด็กหญิง อายุประมาณ 2-3 ขวบ จุดที่พบเบาะหลังซ้าย
- รายที่ 2.เพศหญิง วัยกลางคน จุดที่พบเบาะหลังซ้าย พบร่างคู่กับเด็ก
- รายที่ 3. เบาะซ้ายข้างคนขับ เพศหญิงวัยกลางคน
- รายที่ 4.เด็กหญิง อายุ 2-3 ขวบ เบาะหลัง
- รายที่ 5.เบาะหลังซ้ายเด็กชาย อายุประมาณ 10 ขวบ
- รายที่ 6.เพศหญิง เบาะหลังซ้าย
- รายที่ 7.เพศหญิง
- รายที่ 8.เพศชาย พบร่างตรงตำแหน่งคนขับ
นอกจากนั้นพบชิ้นส่วนมนุษย์ ทั้งแขนและขา รวมถึงศีรษะบางส่วน ยังไม่ทราบเพศ รอตรวจการตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดเจ้าหน้าที่มูลนิธิจะนำส่งชันสูตรที่นิติเวชสถาบันรามาจักรกรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ และยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ เด็กหญิง อายุ 12 ปี และ หญิงสาว อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
ถัดไปอีกหน่อยที่ด้านหน้ารถยนต์อเนกประสงค์ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 81-2815 ชุมพร บรรทุกน้ำมันพืช สภาพท้ายรถได้รับความเสียหายจากการถูกพุ่งชน จากการสอบถาม นายเจตน์ สุขกลิ่น อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุช่วงแรก บอกว่า ทันทีที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กหญิงสองรายกระเด็นออกมาจากตัวรถ จึงปฐมพยาบาลและพาตัวส่งโรงพยาบาล โดยจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บนั่งมาในรถ และกำลังเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่อยู่ในจังหวัดระยอง โดยมีน้าและอามารวมถึงหลานสาวรวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน เป็นจังหวะที่ลงมายืนท้ายรถเพื่อเปลี่ยนแพมเพิสให้กับหลาน และกำลังจะพากันขึ้นรถเดินทางต่อ แต่มาประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายจนกระเด็น
ขณะที่ นายกวางแก้ว สงวนนามสกุล อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมันพืช ที่จอดคันแรก บอกว่า ตนเองและภรรยาขับรถบรรทุกน้ำมันพืช จากจังหวัดชุมพรเพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดปราจีนบุรี จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่องทางจอดรถฉุกเฉินจึงพากันจอดรถหวังจะทานข้าวกันในรถ แต่พอจอดได้ไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งความแรงของการชน ทำให้รถขยับไถลไปข้างหน้าหลายสิบเมตร
พ.ต.อ.กึกก้อง ดีศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น รถเก๋งคันนี้โดยสารมาทั้งหมด 10 คน มาจากกรุงเทพมหานครกำลังมุ่งหน้าไปหาญาติที่จังหวัดระยอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถบรรทุกจอดอยู่ด้านหน้า ในช่องทางฉุกเฉินหรือจุดพักรถชั่วคราวอยู่ก่อนหนึ่งคัน คนขับจึงได้จอดรถต่อท้ายเพื่อให้คนในรถลงมาหยิบแพมเพิสมาเปลี่ยนให้เด็กบนรถ ต่อมาได้มีรถบรรทุกอีกหนึ่งคันวิ่งเข้ามาในช่องทางฉุกเฉิน และพุ่งชนท้ายเข้ากับรถคันเกิดเหตุอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว
ซึ่งขณะนี้สามารถติดต่อทางครอบได้แล้ว อยู่ระหว่างเดินทางมายังโรงพยาบาล ส่วนรายละเอียดทางด้านพนักงานสอบสวนจะได้เข้าสอบปากคำคนขับ และผู้บาดเจ็บอีกครั้งพร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้