
เรือกู้ภัยคว่ำ ขณะงมหาคนจมน้ำ เศร้า นักประดาน้ำจมน้ำดับ
เกิดเหตุสลดซ้ำ เรือกู้ภัยคว่ำ ขณะกลับเข้าฝั่ง หลังหยุดภารกิจงมหาคนจมน้ำ เพราะน้ำเชี่ยวกราดมาก ทำให้นักประดาน้ำดับ
วานนี้ (24 เม.ย.68 )เกิดเหตุ มีหนุ่มวัย 30 ปี จมน้ำบริเวณฝายน้ำล้น คลองท่าหลวง ข้างวัดเขาโร หมู่ 5 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และนักประดาน้ำ ของมูลนิธิต่างๆ ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ เพื่องมร่างแต่พบว่าน้ำเชี่ยวกราด เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการงมค้นหาตลอดทั้งคืน แต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงยุติการค้นหา ก่อนจะระดมกำลังค้นหาผู้จมน้ำอีกครั้งในเช้าวันนี้ ( 25 เม.ย. 2568)
โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำของมูลนิธิต่างๆ หลายสิบชีวิต ระดมกำลังช่วยกันงมค้นหาคนจมน้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่พบ กระทั่งเวลา 15.55 น. ต้องยกเลิกภารกิจชั่วคราวก่อน เพื่อวางแผนค้นหาคนจมน้ำอีกครั้ง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำนำเรือกลับเข้าฝั่งเทียบท่า กระแสน้ำซัดเรือพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่ที่อยู่บนฝั่งเข้าช่วยเหลือได้ 4 คน คือ นายบุญเลิศ เพียรดี อายุ 38 ปี , นายธีรยุทธ์ ชาญสมุทร์ อายุ 37 ปี,นายภาณุพงษ์ ทิพย์ชิตชลธาร อายุ 30 ปี นายศุภชัย สุวรรณเมฆ อายุ 35 ปี
แต่ นายปิติภูมิ หรือ เดฟ ตาพล อายุ 34 ปี นักประดาน้ำมูลนิธิสยามรวมใจป่อินทร์ อ.ร่อนพิบูลย์ พลัดตกเรือจมน้ำ คาดว่าศรีษะถูกตัวเรือตีจนสลบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ประกอบกับเพื่อนกู้ภัยพยายามเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยชีวิตได้ ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับเพื่อนๆกู้ภัยเป็นอย่างมาก เพราะนายปิติภูม หรือเดฟ ถือเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งที่อุทิศตัวช่วยเหลือสังคมมานานหลายปี
ส่วนนายวัลลภ อายุ 30 ปี ชาวบ้านที่จมน้ำหาย ล่าสุดแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามค้นหาทั้งวัน แต่ก็ยังไม่พบ
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะตนเลี้ยงวัวอยู่ใกล้ฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนตกน้ำ ทราบชื่อภายหลังว่านายวัลลภ ตนจึงรีบแจ้งตำรวจและกู้ภัยช่วย ระหว่างนั้นตนและชาวบ้านพยายามหาวิธีช่วยคนจมน้ำ แต่กระแสน้ำที่ฝายน้ำล้นไหลเชี่ยวกราด จึงไม่กล้าลงน้ำไปช่วย จึงตัดสินใจโยนถังน้ำให้คนจมน้ำเกาะ แต่น้ำเชี่ยวกราดมาก คนจมน้ำไม่สามารถเกาะถังน้ำได้ สุดท้ายจมน้ำหายไป