ข่าว

คมนาคมไฟเขียวแท็กซี่ขึ้นค่าโดยสาร 50 สต.

คมนาคมไฟเขียวแท็กซี่ขึ้นค่าโดยสาร 50 สต.

08 ส.ค. 2562

ที่มา : หน้า 1 หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2562


 

          คมนาคมไฟเขียวปรับค่าโดยสารไม่เกิน 15 ต.ค. ปรับขึ้น กม.1-10 อีก 50 สต. รถติดเพิ่มนาทีละ 3 บาท พร้อมอนุมัติแท็กซี่สุวรรณภูมิปรับค่าเซอร์วิสชาร์จจาก 50 บาท เป็น 70 บาท  ขณะที่บิ๊กตู่ ชี้การลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าตัดสินใจเองไม่ได้

 

          เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก หารือผู้ประกอบการแท็กซี่และแท็กซี่สุวรรณภูมิ เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมรับเรื่องและให้กรมการขนส่งทางบกทำรายละเอียด 1 เดือน โดยผู้ประกอบการสรุปข้อเรียกร้องเหลือ 4 ข้อ คือ ขอปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อลดภาระการขอยกเลิกใช้แท็กซี่โอเค ที่มีการเก็บค่าใช้ระบบจากผู้ขับรายเดือนคนละ 350 บาท การขอขยายอายุจาก 9 ปี เป็น 12 ปี รวมทั้งขอขึ้นค่าเซอร์วิสชาร์จและค่าขนสัมภาระของแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

 


          รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลังหารือได้ข้อสรุปทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผู้ประกอบการแท็กซี่และกรมการขนส่งทางบกทำข้อมูลมา โดยในส่วนค่าโดยสารที่เก็บตามมิเตอร์นั้น เริ่มต้นปัจจุบันเก็บ 35 บาท ขอเป็น 40 บาท จะยังคงไว้ที่ 35 บาท แต่จะอนุมัติให้ปรับขึ้นสำหรับค่าโดยสาร กม.ที่ 1-10 จากกม.ละ 6 บาท เป็น 6.50 บาท ส่วนค่าโดยสารที่เก็บตามมิเตอร์ตั้งแต่กม.ที่ 10-20, 20-40, 40-60, 60-80 และ 80 กม.ขึ้นไปยังคงเก็บอัตราเดิม ส่วนค่าเซอร์วิสชาร์จแท็กซี่สุวรรณภูมินั้น จะอนุมัติให้ปรับจาก 50 เป็น 70 บาท ส่วนค่าขนกระเป๋าสัมภาระก็จะอนุมัติให้เก็บใบละ 20 บาท ความกว้าง 26 นิ้วขึ้นไป ตั้งแต่ใบที่ 3 เป็นต้นไป


          “การปรับค่าโดยสารดังกล่าวจะมีผลภายในระเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอให้ภาครัฐโดยกรมการขนส่งทางบกพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ทดแทนแท็กซี่โอเค ซึ่งผู้ประกอบการขับรถระบุว่าต้องเสียค่าดำเนินการเข้าสู่ระบบ 30,000 บาท และต้องจ่ายเดือนละ 350 บาทต่อคันด้วย ซึ่งเรื่องนี้นายศักดิ์สยาม ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกพัฒนาแอพพลิเคชั่นภายใน 1 เดือน หรืออย่างช้าไม่เกิน 15 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่จะอนุมัติให้ผู้โดยสารปรับราคาตามข้อเรียกร้องที่ตกลงร่วมกันวันนี้” นายศักดิ์สยามกล่าว


          นายศักดิ์สยาม บอกด้วยว่า สำหรับแท็กซี่โอเค จะให้มีการยกเลิกและผู้ประกอบการเสียค่าการใช้ระบบ 350 บาทต่อคันเป็นเดือนสุดท้าย หลังจากนั้นจะไม่มีการเก็บอีก โดยขอให้ผู้ประกอบการขับรถไปใช้แอพพลิเคชั่นตัวใหม่แทน นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้ผู้ประกอบการกรณีแท็กซี่วีไอพี ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกออกกฎหมายบังคับให้ผู้ที่จะให้บริการจะต้องจดทะเบียนในนามนิติบุคคลเท่านั้น แต่วันนี้จะอนุมัติให้บุคคลธรรมดาสามารถจดทะเบียนเพื่อให้บริการแท็กซี่วีไอพีได้ เพียงแต่ต้องพัฒนามาตรฐานรถที่จะนำมาจดทะเบียนตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ รวมถึงประเด็นผู้ประกอบการขอยืดอายุการใช้งานรถแท็กซี่ในระบบจาก 9 ปี เป็น 12 ปี กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้โดยมีเงื่อนไขว่าหลังจากนี้การตรวจสภาพแท็กซี่ที่ให้บริการจะเข้มข้นตั้งแต่ปีแรกโดยรถคันใดไม่ผ่านแม้จะจดทะเบียนปีแรกก็ต้องออกจากระบบ


          ส่วนกรณีข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการขอให้ดำเนินคดีกับบริษัทแกร็บนั้น รมว.คมนาคม ชี้แจงว่า กรมการขนส่งทางบกนำหลักฐานให้แท็กซี่ทราบว่าเคยมีการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทในข้อหาเชิญชวนให้ผู้ที่ไม่ได้จดทะเบียนรถสาธารณะมาวิ่งให้บริการรถแท็กซี่ ซึ่งได้ปรับไปแล้ว 4,000 บาท เป็นโทษปรับที่กฎหมายกำหนดเพียงเท่านี้


          ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้แก่คนกรุงเทพฯ ว่าอยากให้ดูปัจจัยที่เกิดขึ้นในวงจรของรถไฟฟ้าก่อน ทั้งเรื่องการทำสัญญาและการลงทุนกับภาคเอกชน เพราะหากจะลดราคาลงอย่างเดียวหรือแก้ปัญหาผิดวิธีอาจจะกลายเป็นค่าโง่ได้ ดังนั้นจึงต้องดูความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ส่วนจะลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าได้หรือไม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ไปพิจารณาหารือกันก่อนเพราะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้


          “ต้องหารือกันก่อน ขอให้ใจเย็นๆ วันนี้เขามีทางเลือกไว้ให้ จะลดราคาหรือไม่ลดราคา ก็มีทางเลือกในการเดินทาง ทั้งรถ ทั้งเรือ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะขึ้นรถไฟฟ้าทั้งหมด ก็สามารถใช้ตามกำลังที่มีไปก่อน วันนี้อะไรลดได้เราก็ลด วันข้างหน้าหากมีกำไรมากขึ้นก็ค่อยลดลง ทั้งถนน ค่าทางด่วนอะไรต่างๆ ต้องพิจารณากันทั้งหมดโดยคณะกรรมการที่รับผิดชอบ วันนี้เราจะตัดสินด้วยตนเองไม่ได้ ผมไปประกาศเองก็ไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว