ข่าว

เสี่ยโอ๋ ฟิตจัด แก้รถติดหน้าด่าน เล็งยกไม้กั้นออก

เสี่ยโอ๋ ฟิตจัด แก้รถติดหน้าด่าน เล็งยกไม้กั้นออก

23 ส.ค. 2562

เสี่ยโอ๋ "ศักดิ์สยาม  ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ฟิตจัด รุกหารือกทพ.-ทางหลวงพิเศษ แก้รถติดหน้าด่านทางด่วน เล็งยกไม้กั้นออก ระบุ 25 ส.ค.นี้ลุยด่านพระราม 9-มอเตอร์เวย์

 

 

จัดอยู่ในกลุมรัฐมนตรีป้ายแดงที่ฟิตจัด มุ่งมั่นแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาก่อนการเมือง ไม่เสียชื่อพรรคภูมิใจไทย เพราะนอกจาก “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรค ที่สั่งการให้ลูกพรรคทำงานตลอดสัปดาห์ คุ้มค่าภาษีประชาชนแล้ว ต้องนับรวม “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ   น้องชาย เนวิน ชิดชอบ ผู้มากบารมี คนนี้ด้วย

 

ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค. 2562 - นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รมว.คมนาคม )  เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อมอบนโยบายการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และกรมทางหลวงพิเศษว่า ได้มีการมอบหมายงานและติดตามงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยหลักๆ เป็นการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของกรมทางหลวงพิเศษ และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมอบหมายให้ศึกษาและจัดทำแผนงาน เพื่อแก้ปัญหาด่านเก็บเงินทางพิเศษ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เนื่องจากต้องการแก้ปัญหาความแออัดหน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง เพื่อให้ผู้ใช้รถสามารถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว

 

โดยจะมีการอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาไม้กั้นในช่องทางใช้บัตรทั้ง Easy Pass และ M Pass เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการจราจร โดยอาจจะมีการยกไม้กั้นออก และนำพนักงานเข้ามาแทนที่ในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่บนทางด่วนในช่องที่ใช้บัตรทั้ง 2 ประเภท ขณะที่ช่องจ่ายเงินสดอาจจะมีการให้นักศึกษามายืนช่องจราจรหน้าด่านละ 10 คนเพื่อนำคูปองมาจำหน่ายให้กับผู้ใช้รถบนทางด่วนเลย แต่ยังต้องวางแผนและซักซ้อมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดก่อน


 

 

“ในด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์ต่างๆ จะต้องมีการซักซ้อมร่วมกัน ทั้งอุปกรณ์กันฝุ่น กันแดด หรือเสื้อสะท้อนแสงต่างๆ ซึ่งจะใช้เพียงแค่ในช่วงโมงเร่งด่วนเท่านั้น อาจะใช้ในเวลาตั้งแต่ 06.00-09.00 น. และอีกรอบเป็นช่วง 15.00-19.00 น. โดยได้มีการมอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) และกทพ.รับเรื่องทั้งหมดไปดำเนินการต่อแล้ว ซึ่งถ้าหากหน่วยงานใดมีบุคลากรเพียงพอก็ใช้บุคลากรของหน่วยงานนั้น ในการดำเนินการต่างๆ ได้เลยไม่ต้องรอ และไม่ต้องจ้างพนักงานเพิ่มเติม อีกเรื่องเป็นการเตรียมแผนงานในการจ้างบุคลากรในอนาคต เพราะต้องเลือกที่เหมาะสมกับภาระมากขึ้น เนื่องจากในอนาคตอาจมีการนำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้งาน เพื่อทดแทนแรงงานคน แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงานที่มีอยู่แล้ว แต่อาจจะพิจารณาดูว่าจะสามารถนำบุคลากรที่เหลือไปทำงานในด้านใดได้บ้าง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะไม่มีการปลดพนักงานที่มีออกอย่างเด็ดขาด”นายศักดิ์สยามกล่าว

 

นายศักดิ์สยาม  กล่าวอีกว่า ในส่วนของจุดเข้าด่านและออกด่านจะมีการพิจารณาที่จะเพิ่มระบบการชำระเงินด้วยบัตรเดบิตเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อชำระก่อนก็อาจจะมีค่าผ่านทางที่น้อยกว่าและระบบบัตรเครดิต โดยเชื่อว่าภายในปีนี้จะต้องศึกษาถึงแนวทางการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ โดยในระยะยาวหากสามารถนำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้งานได้จริง และหากมีการทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (พีพีพี) ก็จะต้องมีการพิจารณาอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) ให้ดีที่สุด เนื่องจากหากมีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้จริง เชื่อว่าจะต้องมีต้นทุนที่ลดลงมาก เพราะความจริงแล้วราคาไม่ได้สูงมากนัก โดยในวันที่ 25 สิงหาคม 2562นี้ จะมีการลงพื้นไปยังด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษพระราม 9 และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์)ในช่วงเวลาเร่งด่วน ขณะที่หากมีการก่อสร้างอะไรเพิ่มเติม จะให้ดูการรักษาความปลอดภัย และการซักซ้อมให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที

 

 

 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในระยะยาวจะมีการนำกล้องวงจรปิดเข้ามาใช้และบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก เพราะนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุได้แล้ว ยังสามารถป้องกันปัญหาอาชญากรรมและเพิ่มความปลอดภัยอย่างยั่งยืนได้มากขึ้น รวมถึงจะมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ และเชื่อมต่อระบบเข้ากับระบบของกรมการขนส่งทางบกเช่นกัน เพื่อช่วยในด้านการจับทะเบียนรถยนต์ที่กระทำความผิดต่างๆ 

 

รวมถึงหาแนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษทุกประเภท (ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โทลล์เวย์) เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน โดยการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางจะต้องไม่นำภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาอุดหนุน หากโครงการใดมีการร่วมทุนกับเอกชนก็ให้ไปพิจารณาศึกษารายได้ในอนาคตว่า จะมีวิธีการใดที่จะนำรายได้ในอนาคตมาใช้ได้บ้าง ซึ่งหากสัญญาสิ้นสุดแล้วจะทำอย่างไรเพื่อชดเชยการสูญเสียที่อาจจะมี โดยต้องดูตัวเลขให้ชัดเจน และต้องสามารถอธิบาย ตอบคำถาม รวมถึงตรวจสอบได้ด้วย

 

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังมีการเน้นย้ำนโยบายเรื่องความปลอดภัย ที่ต้องมีการซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และเฝ้าระวังการเกิดเหตุตลอดเวลาทั้ง 24 ชั่วโมง สำหรับการทำสัญญากับเอกชน ขอให้พิจารณาสัญญาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตอีกต่อไป