การไฟฟ้านครหลวงชี้แจง เหตุผลยังไม่คืนเงินประกันไฟฟ้า
MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวงชี้แจง ทำไมยังไม่คืนเงินประกันไฟฟ้าให้กับประชาชน 9 แสนราย ระบุ มีบางรายลงทะเบียนผิดองค์กร เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ในเงินประกัน หรือไม่มารับเงิน
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทั่วประเทศ ทำให้หลายหน่วยงานร่วมใจกันเยียวยารวมทั้งการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงและไม่ได้รับเงินเยียว
5.ระบบคืนเงินประกันผ่าน 7-ELEVEN แล้ว แต่ผู้ขอคืนเงินประกันยังไม่ไปรับเงิน
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่รับเงินคืนผ่านระบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-ELEVEN นั้น เมื่อ MEA ตรวจสอบสำเร็จแล้ว จะแจ้งข้อความ SMS ที่ระบุ จำนวนเงิน และรหัส PIN CODE ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ขอคืนประกันได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนใช้ยื่นรับเงินพร้อมกับแสดงบัตรประชาชน
แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ที่ได้รับสิทธิ์รับเงินผ่าน 7-ELEVEN แล้วจำนวนมากที่ยังไม่ได้ไปรับเงิน ซึ่งหากผู้ลงทะเบียนไม่ไปรับในระยะเวลาที่กำหนด 30 วัน (นับจากวันที่ MEA แจ้งผ่าน SMS) MEA จะดำเนินการยกเลิกการลงทะเบียนในครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ขอคืนเงินประกันที่ถูกยกเลิกการลงทะเบียนจะสามารถลงทะเบียนครั้งใหม่ได้ตามปกติ
อ่านข่าว : ประกันสังคมจ่ายลูกจ้างบริษัทมิตซูฯชลบุรีที่ถูกเลิกจ้างร้อยละ70
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะโฆษก MEA กล่าวชี้แจงถึงจำนวนผู้ลงทะเบียนและไม่ได้รับคืนเงินประกันไฟฟ้าว่า จำนวนผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9 แสนรายนั้น MEA ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบว่าอาจมีสาเหตุมาจากการผิดเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
1.ลงทะเบียนผิดองค์กร
เนื่องจาก MEA ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ เท่านั้น สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจาก 3 จังหวัดดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ที่เว็บไซต์ PEA เท่านั้น
2.เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ในเงินประกัน
เนื่องจากหลักการคืนเงินประกันของ MEA จะพิจารณาว่า ผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันนั้น เป็นบุคคลที่มีชื่อ-นามสกุล ตรงกับผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไว้หรือไม่ ดังนั้น หากชื่อ-นามสกุล ไม่ตรง ผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับเงิน ยกเว้นในกรณีที่ข้อมูลไม่ตรงเนื่องจากการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล หรือเป็นทายาทของผู้วางเงินประกัน จะต้องรอข้อความ SMS จาก MEA แจ้งให้ยื่นเอกสารยืนยันเพิ่มเติมผ่าน http://measy.mea.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบ
3.รับเงินผ่านบัญชีธนาคารที่ชื่อไม่ตรงกับผู้วางเงินประกัน
เพื่อป้องกันการลักลอบรับสิทธิ์เงินประกันของบุคคลอื่น MEA จึงกำหนดให้ผู้ลงทะเบียนที่เลือกรับเงินผ่านช่องทางบัญชีธนาคาร จะต้องใช้บัญชีที่มีชื่อตรงกับชื่อผู้วางหลักประกันเท่านั้น โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกบัญชีที่ชื่อไม่ตรง จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้
4.รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
ระบบการลงทะเบียนของ MEA กำหนดให้ผู้ที่เลือกช่องทางการรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ต้องเป็นประเภทผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์ จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้