ข่าว

"เช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66" ธ.ก.ส. โอนเงินงวด 9 กว่า 150 ล้าน

"เช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66" ธ.ก.ส. โอนเงินงวด 9 กว่า 150 ล้าน

15 ธ.ค. 2565

"เช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66" ธ.ก.ส. โอนเงิน ประกันรายได้ข้าว งวดที่ 9 อีกกว่า 150 ล้านบาทแล้ว เช็คราคาส่วนต่าง

"เช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66" หลังจากที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 กรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน 18,700.13 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้เริ่มโอนเงินประกันรายได้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 โดยโอนเงินงวดที่ 1-8 ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไปแล้ว จำนวน 2.53 ล้านครัวเรือน เป็นจำนวนเงิน 7,254.99 ล้านบาท

 

ล่าสุด เงินประกันรายได้ข้าว 65/66 งวดที่ 9 เข้าแล้ว โดย นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวในช่วงวันที่ 3 ธันวาคมถึง 9 ธันวาคม 2565 ธ.ก.ส.จะโอนเงินส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง (งวดที่ 9 และงวดที่ 1 - 8 เพิ่มเติม) เข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 จำนวนกว่า 48,336 ครัวเรือน เป็นจำนวนเงิน 150.35 ล้านบาท

 

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ 

 

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันรายได้ 15,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันรายได้ 14,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
  • ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคาประกันรายได้ 11,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
  • ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันรายได้ 10,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
  • ข้าวเปลือกเหนียว  ราคาประกันรายได้ 12,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

 

ทั้งนี้ ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั่วประเทศ ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ประมาณ 4.68 ล้านครัวเรือน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และป้องกันความเสี่ยงด้านราคา ไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุด ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ

 

โดยเกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 กับกรมส่งเสริมการเกษตร และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จะจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยว และคำนวณปริมาณผลผลิต

 

โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิด คูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชย ส่งให้กับธ.ก.ส. เพื่อประมวลผลและดำเนินการจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบ จากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

 

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile และ A-Mobile Plus ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือน เงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ สำหรับเกษตรกรที่มีข้อสอบถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ


ช่องทางการเช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66  

 

  • เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com คลิกที่นี่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็ค "เงินเยียวยาเกษตรกร" หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
  • ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเอง