Star Aire เยี่ยมในความเย็นและคุณภาพ แอร์ที่อยู่คู่คนไทยมากกว่า 35 ปี
เยี่ยมในความเย็นและคุณภาพ” เป็นประโยคคุ้นหู ที่ใครหลายคนได้ยินแล้วจะรู้สึกคุ้นเคย เพราะเป็นทั้งวิสัยทัศน์และสโลแกนของ Star Aire แบรนด์เครื่องปรับอากาศที่อยู่คู่คนไทยมากกว่า 35 ปี
ภายใต้การบริหารงานของคุณไพรัตน์ เอื้อชูยศ ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอีกด้วย
“ผมเริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2508 ที่โรงกลึง โรงเลื่อย โรงน้ำแข็ง จากนั้นก็ย้ายมาช่วยพี่ชายทำแอร์รถยนต์ ตู้เย็น ตู้แช่สแตนเลส ทำได้อยู่ประมาณ 8 ปี ผมก็แยกมาทำแอร์บ้าน เริ่มจากการเป็นดีลเลอร์ ซื้อแอร์มาขายและติดตั้งให้ลูกค้า ทำได้อยู่ประมาณ 3-4 ปี ปรากฏว่าผลตอบรับดี มียอดขายติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ ประกอบกับเวลานั้นผู้ผลิตที่เรารับซื้อแอร์ เขาจะเลิกกิจการ จึงนำความรู้ที่สะสมมาเริ่มต้นทำโรงงานเอง ใช้ชื่อแบรนด์ Star Aire บนเนื้อที่ห้องแถวประมาณ 26 ตารางวา โดยเน้นเรื่องคุณภาพ
ลูกค้าที่ซื้อแอร์ไปแล้ว เขาคาดหวังอยู่ 3 อย่าง คือ แอร์ต้องเย็น อายุการใช้งานยาวนาน และประหยัดไฟ จึงเป็นที่มาของวิสัยทัศน์และสโลแกนของบริษัทสตาร์คือ เยี่ยมในความเย็นและคุณภาพ
จากจุดเริ่มต้นที่ห้องแถว ขยายสู่พื้นที่ 3 ไร่ และกลายเป็น 63 ไร่ในปัจจุบัน ในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งหนทางกว่า Star Aire จะก้าวสู่จุดที่ประสบความสำเร็จนี้ ต้องพบเจอกับบททดสอบในหลายๆ ด้าน ที่ช่วยให้ก้าวผ่านได้อย่างเข้มแข็ง
“เคยมีคนถามผมว่า ทำไมเลือกทำธุรกิจเครื่องปรับอากาศ เพราะคนซื้อไปแล้ว กว่าจะเปลี่ยนใหม่ ก็ใช้เวลาหลายปี แต่ในมุมมองของผมทุกธุรกิจต้องการกำไร และแอร์ที่ลูกค้าซื้อไป มันไม่ได้จบแค่เพียงวันที่ลูกค้าซื้อ แต่มันคือการผูกพันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายจนกว่าจะเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ เพราะมีบริการติดตั้ง บำรุงรักษา ถ้าเราบริการที่ดี มีบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม จะทำให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น มีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าการตลาดมีความสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ทุกธุรกิจย่อมมีอุปสรรค เราเจอทั้งวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 แต่เรายังข้ามผ่านต่อได้ในทุกวิกฤต จนมาถึงปัจจุบันที่ผมสามารถส่งต่อกิจการให้รุ่นลูกดูแลและสานต่อธุรกิจได้”
จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก คุณวุฒิไกร เอื้อชูยศ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังถึงการรับช่วงต่อด้วยรอยยิ้ม
“ผมเริ่มเข้ามาดูแลกิจการตั้งแต่อายุ 27 ปี รับผิดชอบฝ่ายขาย และยังมีพี่สาวที่ดูแลโรงงาน เราเป็นบริษัทผู้ผลิตที่ดูแลระบบเครื่องปรับอากาศครบวงจร ทั้งการดูสถานที่ติดตั้ง ดีไซน์ และออกแบบให้เหมาะสมกับสถานที่ ขนาดห้องกับแอร์ที่ใช้ต้องสัมพันธ์กัน เราให้คำแนะนำได้ทั้งหมด การดำเนินงานภายใต้ 4 บริษัทที่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ดังต่อไปนี้ 1. บริษัทสตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นเหมือนบริษัทแม่ ดูแลฝ่ายขายภายในประเทศ และประเทศใกล้เคียง เช่น ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม ประเทศกัมพูชา ภายใต้แบรนด์ Star-Aire มีเครื่องปรับอากาศทุกประเภททุกขนาด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า เหมาะกับทุกสถานที่ เช่น ระบบที่อยู่อาศัย (Split Type) ระบบการใช้งานเชิงพาณิชย์ (Variable Refrigerant Flow) และเครื่องปรับอากาศประเภทชิลเลอร์ และยังมีแอร์ Solar Hybrid ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ประหยัดไฟฟ้าสูงสุดถึง 76% ต่อปี 2. บริษัท พีพีเจ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดูแลเรื่องกระบวนการผลิตเครื่องปรับอากาศทุกระบบทุกขนาดไม่ว่าจะเป็นแอร์ (Split Type) แอร์ระบบชิลเลอร์ VRF แอร์ Solar Hybrid และควบคุมคุณภาพเครื่องปรับอากาศ
ทั้งนี้ยังมี OEM, ODM และ OBM ทั้งแอร์เล็กและแอร์ใหญ่ 3. บริษัท พีพีซี อินเตอร์คูลลิ่ง จำกัด ผลิตแผงคอยล์ทุกระบบ รวมถึงสแปร์พาร์ทเครื่องปรับอากาศ อะไหล่แอร์ ดูแลบริการต่าง ๆ ให้กับลูกค้าของเรา 4. บริษัท สตาร์ คลีนเอ็นเนอร์จี จำกัด เป็นบริษัทน้องใหม่ ควบคุมดูแลเรื่องระบบ Solar Cell ครบวงจร มีบริการติดตั้ง สำรวจหน้างานโดยทีมวิศวะ และยังมีระบบ Inverter อะไหล่ในการติดตั้ง
ธุรกิจที่เติบโต พร้อมกับโลกที่เปลี่ยนไป ในวันนี้ หลายหน่วยงานเริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แม้เราจะเคยได้ยินว่าเครื่องปรับอากาศมีส่วนทำให้โลกใบนี้ร้อนขึ้น แต่นวัตกรรมและการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้เกิดเป็นเครื่องปรับอากาศพลังงานแสงอาทิตย์
“เราคิดอยู่เสมอว่าจะทำยังไงให้แอร์ของเราเป็นแอร์ที่เรียกได้ว่า Clean Manufacturer คือนอกจากประหยัดไฟแล้ว ยังต้องใช้พลังงานจากแหล่งอื่นได้ด้วยโดยพลังงานสะอาด จนเราได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ประกอบการทั้งในไทย และเยอรมัน คิดค้นเครื่องปรับอากาศเป็นระบบ Solar Hybrid นี้ เหมาะกับหน่วยงาน สำนักงาน หรือออฟฟิศที่ทำงาน ช่วงเวลา 08.00 น.- 17.00 น. และหากเป็นโรงงานจะปรับเป็น Solar Roof ที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เกิดเป็นไฟฟ้าได้ ทำให้ลูกค้าประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น และเป็นเครื่องปรับอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเดิม”
คุณวุฒิไกร ยังเล่าต่อว่าการทำธุรกิจต้องใช้เงิน เราโชคดีที่มีธนาคารกรุงไทย เป็น Partner ที่ดี ที่คอยอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์ แม้ในช่วงที่โรงงานต้องเจอกับเหตุการณ์วิกฤตไฟไหม้ครั้งใหญ่ หรือการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย แต่ธนาคารยังคอยเป็นกำลังหนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยคุณไพรัตน์ ได้กล่าวเสริมว่า “ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา เรามีธนาคารอยู่เคียงข้าง คอยแนะนำ ช่วยเหลือ เป็นเพื่อนที่ยื่นมือมาให้เราในยามที่เจอวิกฤต และผมเป็นผู้ก่อตั้งชมรมคนรักกรุงไทย ที่มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการ เพื่อคอยให้การช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำธุรกิจ การขอสินเชื่อ ให้กิจการสามารถก้าวสู่วันที่สดใสได้อย่างที่ในวันนี้ Star Aire พร้อมติดปีกโบยบินสร้างธุรกิจให้เติบโตเคียงข้างคนไทยตราบนานเท่านาน”
ธนาคารกรุงไทย พร้อมติดปีกให้ธุรกิจคุณ ด้วยบริการสินเชื่อกรุงไทย SME รักกันยาว ๆ ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 4% ต่อปี สามารถผ่อนชำระได้นานถึง 10 ปี (สูงสุด 20 ปี สำหรับอาคารพาณิชย์) ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ไม่ว่าจะขยายกิจการหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนก็ช่วยให้ธุรกิจของคุณบินต่อได้ยาว ๆ
ผู้สนใจสินเชื่อเพื่อติดปีกให้ธุรกิจคุณ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาและสำนักงานธุรกิจของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ หรือโทรสอบถามได้ที่ Krungthai Contact Center 02 111 1111 หรือคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://krungthai.com/th/content/sme/loan/sme-long-installment-loan
#กรุงไทยเคียงข้างไทยสู่ความยั่งยืน #กรุงไทยSMEติดปีกให้ธุรกิจคุณ #สินเชื่อกรุงไทยSMEรักกันยาวๆ