แรงงาน ลุ้น 17 อาชีพชง ครม. ปรับขึ้น "ค่าแรง" สูงสุด 700 บาท
ลุ้น 17 อาชีพชง ครม. ปรับขึ้น "แรงงาน" วันนี้ อัตราใหม่สูงสุด 700 บาท สาขาอาชีพใหนจ่อได้ขึ้นค่าแรงบ้างเช็คที่นี่
รานงานข่าวจากกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้เสนอเรื่องการขอปรับอัตราค่าจ้างในกลุ่ม 17 อาชีพ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในที่ประชุม ครม. วันที่ 31 มกราคม 2566 ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้เสนอเรื่องเพื่อรอคิวเข้าสู่วาระการพิจารณาไปแล้วแต่แรากฎว่าในการประชุม ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมาวาระการปรับค่าแรงยังถูกบรรจุในวาระการพิจารณาของ ครม. โดยทาง กระทรวงแรงงาน ได้นำเสนอรายละเอียดไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงฯ ไปแล้ง
ในเบื้องต้นจะมีการปรับ "ค่าแรง" ในอัตรา 400-700 บาท แต่จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการรับรองกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานแล้วเท่านั้น
สำหรับรายละเอียดอาชีพที่เสนอปรับ "ค่าแรง" ตาม อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 3 อาชีพ จำนวน 17 สาขา ดังนี้
สาขาอาชีพช่างอุตสาหกรรม
1.ช่างระบบถ่ายกำลัง 495 บาท
2.ช่างระบบปั้มและวาล์ว 515 บาท
3.ช่างประกอบโครงสร้างเหล็ก 500 บาท
4.ช่างปรับ 500 บาท
5.ควบคุมระบบงานเชื่อมมิก-แม็กด้วยหุ่นยนต์ 520 บาท
5.ช่างเทคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม 545-715 บาท
สาขาอาชีพช่างเครื่องกล
7.ช่างซ่อมรถแทรกเตอร์การเกษตร 465-620 บาท
8.ควบคุมเครื่องจักรรถตักหน้าขุดหลัง 585 บาท
9.ควบคุมเครื่องจักรรถขุด 570 บาท
10.ควบคุมเครื่องจักรรถลากจูง 555 บาท
11.ควบคุมเครื่องจักรตัก 520 บาท
สาขาอาชีพภาคบริการ
12นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (โภชนบำบัด) 500-600 บาท
13.นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (นักวารีบำบัด) 500-600 บาท
14นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (สุคนธบำบัด) 500-600 บาท
15.พนักงานผสมเครื่องดื่ม 475-600 บาท
16.การเลี้ยงเด็กปฐมวัย 530 บาท
17.ช่างเครื่องช่วยคนพิการ 520-600 บาท
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปี 2555 คณะกรรมการจ้าชุดที่ 18-21 ได้กำหนดอัตรา "ค่าแรง" ตามมาตรฐานฝีมือแรงแล้วจำนวน 112 สาขา เมื่อรวมกับที่กำหนดใหม่ในครั้งนี้อีก 17 สาขา รวมเป็น 129 สาขา
ทั้งนี้การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานจะส่งผลให้ลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ มีค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นธรรม สอดคล้องกับทักษะฝีมือแรงงาน ความรู้ ความสามารถและการจ้างงานในตลาดแรงงาน ส่วนลูกจ้างทั่วไปการปรับ "ค่าแรง" ถือเป็นแรงจูงใจให้มีการพัฒนาฝีมือแรงงานและเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ด้านผู้ประกอบการสามารถคัดเลือกแรงงานที่ฝีมือดีเข้าทำงาน ซึ่งจะทำให้สินค้าและบริการมีคุณภาพและมาตรฐาน ลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิตเพราะจะไม่เกิดความผิดพลาดระหว่างการผลิต รวมทั้งการปรับอัตรา "ค่าแรง" ใน 17 สาขาอาชีพจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานกึ่งฝีมือและแรงงานฝีมือในสาขาอาชีพที่ขาดแคลน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มศักยภาพแรงงานไทยให้เป็ยที่ยอมรับทั้งในปละต่างประเทศ
ด้านการบังคับใช้ หรือ หากมีการผ่านมติครม. แล้ว นั้นลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแห่งชาติใน 17 สาขา ไม่วาก่อนหรือหลังที่มีการออกประกาศและมีผลบังคับใช้ หากมีความต้องการจะใช้สิทธิ์ให้ยื่นหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในอาชีพและสาขาและระดับนั้นแก่นายจ้างโดยเร็ว และเมื่อนายจ้างได้รับหนังสือแล้ว ให้จ่ายค่าจ้างตามอัตราประกาศนี้ให้แก่ลูกจ้าง นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองเป็นต้นไป หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ