'ภาษีสินค้านำเข้า 2566' ไปรษณีย์ไทย เพิ่มช่องทางชำระ-ฟรีค่าธรรมเนียม
'ภาษีสินค้านำเข้า 2566' ไปรษณีย์ไทย เพิ่มช่องทางชำระ-ฟรีค่าธรรมเนียม ตั้งแต่วันนี้-31 พ.ค. 2566 เช็ก สินค้าแบบไหน ที่ต้อง เสียภาษี
ตามธรรมเนียม ที่รัฐ จะต้องเรียกเก็บ “ภาษีนำเข้า” จากผู้นำสินค้าเข้ามาในประเทศไทย โดยผ่านพิธีการศุลกากร ไม่ว่าจะนำเข้ามาทางน้ำ ทางบก หรือทางอากาศก็ตาม เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ โดยกรมศุลกากร มีหน้าที่จัดเก็บภาษี ขาเข้า-ขาออก และภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น สินค้านำเข้า จะต้องเสียภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งไปรษณีย์ไทย เป็นช่องทางหนึ่ง ที่เปิดให้ชำระภาษีสินค้านำเข้า
โดย “ภาษีสินค้านำเข้า 2566” ล่าสุด นับว่าเป็นข่าวดี ที่ไปรษณีย์ไทย ได้เพิ่มช่องทางชำระภาษีสินค้านำเข้า พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมถึง 31 พ.ค. 2566 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้าสิ่งของ ที่มีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 40,000 บาท สามารถชำระภาษีสินค้าได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ช่องทาง-วิธี ชำระภาษีสินค้านำเข้า 2566
- ชำระภาษีสินค้านำเข้าทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ คลิกที่นี่
- เลือกเมนูชำระภาษีอากร
- กรอกหมายเลขสิ่งของ/หมายเลขศุลกากร
- เลือกปุ่มชำระเงิน (QR Payment)
- สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันได้ทุกธนาคาร คิดค่าธรรมเนียมบริการครั้งละ 20 บาท/ใบแจ้ง
เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน ระบบจะแสดงค่าภาษีสินค้านำเข้าที่ต้องชำระ พร้อมค่าธรรมเนียมบริการ โดยบุรุษไปรษณีย์ จะส่งสิ่งของที่ชำระภาษีสินค้าแล้วในวันถัดไป นับจากวันที่ชำระ และสามารถรอรับสิ่งของตามที่อยู่ผู้รับได้ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สามารถเลือกชำระภาษีสินค้านำเข้าทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ international.thailandpost คลิกที่นี่ ได้ฟรี โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมบริการ ตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. 2566
สำหรับขั้นตอนการชำระภาษี สำหรับสิ่งของที่มีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 40,000 บาท เมื่อสินค้าได้รับการประเมินภาษีจากศุลกากรเรียบร้อยแล้ว ไปรษณีย์ไทย จะจัดส่งใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของ ส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศไปยังที่อยู่ผู้รับ เพื่อให้ทราบอัตราภาษีสินค้าที่ต้องชำระ โดยปัจจุบันมีช่องทางการชำระภาษีสินค้าผ่านไปรษณีย์ให้เลือกชำระได้ตามความสะดวกรวม 3 ช่องทาง ได้แก่
- ติดต่อชำระด้วยตนเอง พร้อมรับสินค้า ณ ที่ทำการไปรษณีย์
- ชำระออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Wallet@Post
- ชำระออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ คลิกที่นี่
ซึ่งช่องทางในการชำระผ่านเว็บไซต์ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ สามารถชำระภาษีได้สะดวกคล่องตัวมากขึ้น เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด จากแอปพลิเคชันของธนาคารที่เลือกใช้งาน ก็สามารถชำระภาษีสินค้าได้ทันที
สินค้าที่ต้องเสียภาษีสินค้านำเข้า
สินค้าประเภทนี้ คือ สินค้าที่ซื้อจากต่างประเทศ (รวมทั้งของใน Duty Free จากเมืองนอก) แล้วมีมูลค่าเกิน 1,500 บาท จะสรุปลิสต์รายการเสียภาษีออกมาได้ 4 พิกัดหลักๆ ดังนี้
- กระเป๋าแบรนด์เนม เสีย 20% ของราคาตามใบเสร็จ + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- รองเท้า เสีย 30% ของราคาตามใบเสร็จ + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- นาฬิกา เสีย 5% ของราคาตามใบเสร็จ + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- โทรศัพท์ กล้อง และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า แต่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หากเข้าข่ายดังกล่าวต้องเสียภาษีทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น
สำหรับรายการอื่น ให้ค้นหาประเภทสินค้าที่ต้องเสียภาษีผ่านเว็บไซต์ กรมศุลการ คลิกที่นี่