นักวิชาการเกษตร ยกนิ้ว 'กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา ' มาถูกทาง
นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ยกนิ้ว "กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา " เพชรบูรณ์ ที่สร้างความเข้มแข็ง จากกลุ่มแม่บ้าน ขับเคลื่อนกิจกรรมในการแปรรูปผลผลิต รุกไปสู่การต่อยอดผลิตข้าวเพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์สร้างมูลค่าเพิ่ม
น.ส. สุภาพร นุชท่าโพ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก เปิดเผยว่า "กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา " เป็นกลุ่มที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนงานนโยบายของ "กรมการข้าว" ทั้งการรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่มนาแปลงใหญ่ การจัดตั้งกลุ่มขึ้นทะเบียนเป็นศูนย์ข้าวชุมชน ซึ่งทางศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลกได้ลงพื้นที่วางแผนการดำเนินงาน การวิเคราะห์สภาพพื้นที่ของกลุ่มเกษตรกร และศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว รวมถึงการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ดีให้กับทางกลุ่ม ซึ่งการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ดีให้กับเกษตรกร เป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นทุน เนื่องจากการใช้เมล็ดพันธุ์ดีส่งผลให้ข้าวมีความแข็งแรง และได้ผลผลิตที่ดี
ทำให้การพัฒนาของ "กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา " จากเดิมกลุ่มเริ่มรวมตัวจากกลุ่มแม่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมในการแปรรูปผลผลิต จึงค่อย ๆ ขยายเพิ่มสมาชิก ไปจนถึงเริ่มกิจกรรมใหม่ ๆ เช่น การผลิตข้าวซึ่งแต่เดิมปลูกข้าวเพื่อการบริโภค สำหรับจำหน่ายข้าวสดให้แก่โรงสี แปรรูปเพื่อการรับประทาน และจำหน่ายข้าวสารเท่านั้น กระทั่งได้ต่อยอดโดยการผลิตข้าวเพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ เป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิต เนื่องจากการผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ มีราคาสูงกว่าการจำหน่ายกับโรงสี แต่ทั้งนี้ต้องชดเชยด้วยระยะเวลาในการเพาะปลูกที่ต้องอาศัยความปราณีต และความเอาใจใส่กว่าการปลูกข้าวแบบปกติ
นางบุญเลิศ ปราบภัย ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา ต.นายม อ.เมือง จ. เพชรบูรณ์ กล่าวว่า การลดต้นทุนที่ กรมการข้าว หรือ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ให้การส่งเสริม คือ การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี ให้คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับลักษณะประจำพันธุ์ข้าวต่าง ๆ ซึ่งมีความเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ของกลุ่ม เนื่องจากพื้นที่แปลงของสมาชิกภายในกลุ่มเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาทั้งน้ำท่วมและฝนแล้ง ทำให้ในพื้นที่ต้องปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กข59 ที่มีความเหมาะสมกับนาร่องน้ำ มีอายุประมาณ 5 เดือน พื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมจะปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งเป็นข้าวนาปีได้ผลผลิตสูงและราคาดี
พื้นที่ที่น้ำท่วมปลูกข้าวอายุสั้น เช่น กข43 ซึ่งเป็นข้าวดัชนีน้ำตาลน้อย ขายได้ทั้งเมล็ดพันธุ์และสีเป็นข้าวสาร ข้าวพิษณุโลก 2 เป็นข้าวที่ต้านทานโรคและแมลง เหมาะสมกับพื้นที่น้ำหลาก ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทำให้พื้นที่ของกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา ปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ปลูกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งการปลูกข้าวสายพันธุ์ที่เหมาะกับพื้นที่ ทำให้ข้าวแข็งแรงทนทานกับสภาพแวดล้อมได้ ช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปริมาณที่ดี อีกทั้งเป็นการลดต้นทุนในการใช้ยากำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืช เนื่องจากข้าวมีความแข็งแรงทนทานต่อโรค
ปัจจุบัน " กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา " เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งและมีการพัฒนาอยู่สม่ำเสมอ ทำให้เป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการปลูกเมล็ดพันธุ์กระจายสู่ชุมชน ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้เมล็ดพันธุ์ดีและเหมาะสม จากทางศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ทำให้การผลิตเมล็ดพันธุ์ของกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองผักบุ้งพัฒนา มีความเข็มแข็งและยั่งยืน ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีมีคุณภาพส่งถึงมือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว