'วิธีซื้อสลากออมสินให้ถูกรางวัล' อยากถูก สลากออมสิน อ่านเคล็ดลับตามนี้
'สลากออมสิน' รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ หวยออมสิน รวมทั้ง 'วิธีซื้อสลากออมสินให้ถูกรางวัล' อ่านเคล็ดลับตามนี้เลย
“สลากออมสิน” หรือ หวยออมสิน ออกโดย ธนาคารออมสิน นอกจากเป็นการออมเงินรูปแบบหนึ่งแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุน ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปซื้อเพื่อลงทุนได้ และยังได้ลุ้นโชครางวัลใหญ่แต่ละงวด ตามอายุของสลาก ที่ออกรางวัล ทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนอยากรู้ แล้ว “วิธีซื้อสลากออมสินให้ถูกรางวัล” ทำอย่างไร คมชัดลึก จะบอกเคล็ดลับ และพาไปศึกษาข้อมูลกันก่อน ว่าสลากออมสินคืออะไร มีกี่ประเภท มีเงื่อนไข และวิธีการซื้ออย่างไร
สลากออมสินคืออะไร
สลากออมสิน คือ ผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการออมเงินจากธนาคารออมสินในระยะยาว โดยมีรูปแบบตามอายุการฝากเงิน อาทิ สลากออมสินพิเศษ 1 ปี และสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี, สลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินดิจิทัล 2 ปี และ 3 ปี โดยในอดีตเคยมีรูปแบบ 5 ปี แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกขายไปแล้ว
โดยสิ่งที่ผู้ฝากจะได้รับ คือ ดอกเบี้ย ซึ่งขึ้นอยู่ตามอัตราที่กำหนด พร้อมกับสิทธิในการลุ้นรางวัลทุกเดือน ซึ่งคล้ายกับ “หวย” หรือ การซื้อ ลอตเตอรี่ แต่ที่แตกต่างกันคือ หากไม่ถูกรางวัล เงินก็ไม่ได้หายไปไหน และที่สำคัญก็ยังได้รับดอกเบี้ยเหมือนเดิมตามอายุการฝากของสลาก ซึ่งหากฝากครบตามเงื่อนไข ก็ยังได้เงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ย และยังมีสิทธิได้ลุ้นรางวัลตลอด จึงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุน ที่ได้ทั้งเงินที่เพิ่มขึ้น และยังมีโอกาสถูกรางวัลด้วย
สลากออมสิน มีกี่ประเภท
สลากออมสินพิเศษ 1 ปี และสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี
- มีอายุ 1 ปี มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลา 12 เดือน โดยรางวัลที่ 1 จะมีมูลค่ารางวัลอยู่ที่ 3 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเงินรางวัลและดอกเบี้ยสำหรับบุคคลธรรมดาจะไม่เสียภาษี โดยหากฝากครบอายุของสลาก ธนาคารจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากอัติโนมัติ
- สลากดิจิทัล อายุ 1 ปี งวดที่ 17 หน่วยละ 20 บาท มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลา 12 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 3 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เงินรางวัลและดอกเบี้ยของบุคคลธรรมดา ไม่เสียภาษีฝากครบอายุจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากที่เป็นบัญชีคู่โอนโดยอัตโนมัติ คลิกดูรายละเอียดที่นี่
สลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินดิจิทัล 2 ปี
- สลากออมสินพิเศษ 2 ปี ที่มีราคา 100 ต่อหน่วย สามารถลุ้นถูกรางวัลได้ยาวนานถึง 24 เดือน ซึ่งรางวัลที่ 1 มีมูลค่าถึง 5 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย โดยเงินรางวัล และดอกเบี้ยสำหรับบุคคลธรรมดาจะไม่เสียภาษี ซึ่งหากฝากครบอายุของสลาก ธนาคารจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากอัติโนมัติ
- สลากออมสินพิเศษดิจิทัล อายุ 2 ปี งวดที่ 237 หน่วยละ 100 บาท มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลานานถึง 24 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 30 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เงินรางวัลและดอกเบี้ยของบุคคลธรรมดา ไม่เสียภาษี ฝากครบอายุจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากที่เป็นบัญชีคู่โอนโดยอัตโนมัติ คลิกอ่านรายละเอียดที่นี่
สลากออมสินพิเศษ 3 ปีและสลากออมสินดิจิทัล 3 ปี
- สลากออมสินดิจิทัล อายุ 3 ปี ราคาหน่วยละ 50 บาท มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือน เป็นเวลานานถึง 36 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัลละ 10 ล้านบาท 3 รางวัล และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เงินรางวัลและดอกเบี้ยของบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี ฝากครบอายุ จะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากโดยอัตโนมัติ
วิธีซื้อสลากออมสิน
- บุคคลธรรมดาสามารถเปิดบัญชี และซื้อสลากออมสินได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป
- ต้องมีบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกของธนาคารออมสินก่อน เมื่อ “สลาก” ครบอายุแล้ว ธนาคารจะโอนเงินต้น และดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝาก
- สามารถซื้อผ่านธนาคารออมสินได้ทุกสาขา หรือจะซื้อผ่านแอปพลิเคชัน MyMo ของธนาคารก็ได้เช่นเดียวกัน
ขั้นตอนซื้อ “สลากออมสิน” ออนไลน์
- สมัครและลงทะเบียนสลากออมสิน เพื่อเปิดการใช้งานสลากดิจิทัล ได้ที่สาขาของธนาคารออมสินทั่วประเทศ
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MyMo
- เข้าแอปฯ กดเลือกไอคอน “สลากดิจิทัล” แล้วกดเครื่องหมาย + เพื่อทำรายการซื้อสลากดิจิทัล
- ระบุจำนวนซื้อสลากดิจิทัล เช่น 100 500 1,000 5,000 10,000 100,000 1,000,000 โดยการกดเลือกบัญชีที่ต้องการแล้ว “โอนเงิน”
- กดยืนยันข้อมูล เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วิธีซื้อสลากออมสินให้ถูกรางวัล
สลากออมสินดิจิทัล 1 ปี
- ควรฝากขั้นต่ำ 10,000 หน่วย จำนวนเงิน 200,000 บาท จะเพิ่มโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัวทุกเดือน
สลากออมสินดิจิทัล 2 ปี
- ควรฝากขั้นต่ำ 1,000 หน่วย จำนวนเงิน 100,000 บาท จะเพิ่มโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกเดือน
ทั้งนี้ ถึงแม้คนที่มีสิทธิถูกรางวัล จะต้องฝากขั้นต่ำด้วยจำนวนเงินที่สูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่ซื้อจำนวนฝากน้อยกว่า จะไม่มีสิทธิถูกรางวัล ต้องบอกว่า มีสิทธิถูกเหมือนกัน แต่โอกาสอาจจะน้อยกว่าเท่านั้นเอง “การลงทุนคือความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยก็มีความเสี่ยงเช่นกัน”