ข่าว

'สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ ' ไม่ห่วง กฎหมาย EUDR  - กยท. ชี้โอกาสทองส่งออก

'สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ ' ไม่ห่วง กฎหมาย EUDR  - กยท. ชี้โอกาสทองส่งออก

06 ก.ย. 2566

"สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์" สุดมั่นใจพร้อมรับมือ EUDR  กฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า ระบุการสร้างความร่วมมือกับ การยางแห่งประเทศไทย "กยท." สนับสนุนในเรื่องการประ มูลซื้อ ขายยางพาราผ่านระบบ   ทำให้เอื้อสอบแหล่งที่มาสอดคล้องกับสิ่งที่ "สหภาพยุโรป" จะบังคับใช้

 นายปรีชา เป็งนวล ประธานกรรมการ สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ จำกัด จ.เชียงราย  เปิดเผยว่า    จากแนวทางของ สหภาพยุโรป  ที่จะบังคับใช้การสอบตรวจสอบย้อนกลับแหล่งกำเนิดผลิตภัณฑ์ยางพารา (Traceability)  เพื่อรองรับกฎหมาย EUDR  กฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Regulation : EUDR)  ในส่วนของ  สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์   มีความพร้อมในเรื่องการสอบตรวจสอบย้อนกลับ แหล่งกำเนิดผลิตภัณฑ์ยางพารา (Traceability)  เพื่อรองรับกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป 

 

 

 

ที่ผ่านมาเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าว  การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้เข้ามาสนับสนุนในเรื่องการประ มูลซื้อ   ขายยางพาราผ่านระบบ  Thai Rubber Trade (TRT)    ซึ่งเป็นการซื้อขายโดยตรงระหว่าง  สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์  กับผู้ซื้อ  โดยอ้างอิงราคากลางตามที่ประกาศของ กยท. ซึ่งจากเดิมเกษตรกรจะซื้อขายผ่านพ่อค้าคนกลาง  ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้ ที่เพิ่มขึ้นสามารถเลี้ยงครอบครัวได้  และที่สำคัญยางพาราที่ซื้อขายผ่านระบบ TRT ของสหกรณ์ฯ จะสามารถตรวจสอบรายละเอียดในการซื้อขายแต่ละครั้งได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีการจัดเก็บข้อมูลและรวบรวมผลผลิตของสมาชิกแต่ละรายไว้เป็นระบบ จึงสามารถตรวจได้ว่าผลผลิตยางที่ขายไป มาจากสวนยางของสมาชิกรายใด สวนยางตั้งอยู่ที่พิกัดไหน และเป็นสวนยางที่มีประเภทของเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย EUDR หรือไม่

 

 

 

 

 สำหรับสหกรณ์ยางพาราแม่ลาวแม่กรณ์  ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย    ก่อตั้งในปี 2560  เพื่อรวบรวมและส่งมอบยางก้อนถ้วยของสมาชิกในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย อ.พาน อ.แม่ลาว และ อ.แม่สรวย  มีสมาชิกทั้ง หมด 219 คน  โดย สหกรณ์ยางพาราแม่ลาวแม่กรณ์    และ กยท. มีการบูรณาการข้อมูลเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ และขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง กับ กยท. ร่วมกัน ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผลผลิตยางในกลุ่มประเทศผู้ซื้อยางที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

\'สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ \' ไม่ห่วง กฎหมาย EUDR  - กยท. ชี้โอกาสทองส่งออก

\'สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ \' ไม่ห่วง กฎหมาย EUDR  - กยท. ชี้โอกาสทองส่งออก

.

ภาครัฐมั่นใจ EUDR เอื้อส่งออกไทย

.

 


 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ   การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)   เปิดเผยว่า  กฎหมาย  EUDR ของสหภาพยุโรป  จะส่งผลดีต่อยางพาราของไทย เนื่องจากในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก ประเทศไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพมากที่สุด จึงเป็นโอกาสทองในการขยายตลาด ที่ผ่านมา กยท. ได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับกฎหมายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง   ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบการซื้อขายประมูลยางพาราให้เป็นรูปแบบ Digital Platform ผ่านระบบ TRT  ได้เปิดใช้งานระบบในพื้นที่ของสำนักงานตลาดกลางยางพารา 4 แห่ง ได้แก่ สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดเชียงราย  , สำนักงานตลาดกลางจังหวัดหนองคาย , สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดบุรีรัมย์ และ สำนักงานตลาดกลางยาง พาราจังหวัดระยอง

 

 

 

ปัจจุบัน กยท. กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงานเปิดใช้ระบบ TRT ในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสุราษฎร์ธานี  , สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช  , สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลา และสำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา เพื่อให้ครบทั้ง 8 แห่งภายในปี 2566  ในการซื้อขายประมูลยางพารา ผ่านระบบ TRT

\'สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ \' ไม่ห่วง กฎหมาย EUDR  - กยท. ชี้โอกาสทองส่งออก

\'สหกรณ์ยางพาราแม่ลาว-แม่กรณ์ \' ไม่ห่วง กฎหมาย EUDR  - กยท. ชี้โอกาสทองส่งออก

ณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ   การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)

.

นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนระบบธุรกรรม

.

 

เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาระบบการซื้อขายประมูลยางพารา ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูล กับ สำนักงานตลาดกลางยางพาราของ กยท. ทั้ง 8 แห่ง และตลาดเครือข่ายกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ  ซึ่งนอกจากจะช่วยลดระยะเวลาการทำธุรกรรม เพิ่มความโปร่งใส มีความแม่นยำ ลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงบัญชี สามารถทำสัญญาการซื้อขายต่าง ๆ ง่ายขึ้นพร้อมทั้งได้ยางที่มีคุณภาพมาตรฐานในราคาที่เป็นธรรม  และเพิ่มโอกาสขยายช่องทางการตลาดแล้ว  รวมทั้งการนำเทคโนโลยี Block chain  เข้ามาใช้ในระบบ TRT ยังรองรับการการตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลแหล่งที่มาของผลผลิตยางพาราได้อีกด้วย     

 

 

 


ขณะเดียวกัน เพื่อให้การซื้อขายประมูลยางพาราของสำนักงานตลาดกลางยางพารา และตลาดเครือข่ายของ กยท.  มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมในทุก ๆ ด้านยิ่งขึ้น ขณะนี้ กยท.  อยู่ระหว่างการ
พัฒนาระบบ TRT อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ซื้อยางสามารถทราบรายละเอียดการซื้อขายยางของสมาชิกสหกรณ์ในแต่ละครั้งว่าเป็นอย่างไร  มาจากพิกัดสวนยางแปลงไหน สามารถตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลแหล่งที่มาของผลผลิตยางพาราได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำมากยิ่งขึ้น  สอดรับกับกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป  โดยตั้งเป้าจะพัฒนาให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2567 ก่อนกฎหมาย EUDR มีผลบังคับใช้ 

 

.

พัฒนาแอปพลิเคชัน  "RAOT GIS" รองรับการตรวจสอบย้อนกลับ

.

 

กยท. ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน  "RAOT GIS"  ขึ้นมารองรับมาตรการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งกำ เนิดผลิตภัณฑ์ยางพาราเพื่อรองรับกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรปอีกเช่นกัน   โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวมุ่งบริหารจัดการเชื่อมโยงข้อมูลตั้งแต่ข้อมูลเกษตรกรชาวสวนยาง ข้อมูลสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง  และข้อมูลผู้ซื้อขายยางผ่านตลาดกลางยางพาราของ กยท.  ทั้งนี้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ทุกคนสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้บนสมาร์ทโฟน ทั้งระบบ Android และ iOS ลงชื่อเข้าใช้งานได้ทันที  พร้อมทั้งสามารถอัปเดตข้อมูลสวนยาง ด้วยการวาดพิกัดแปลงสวนยาง อัปโหลดรูปถ่ายสวนยาง และเอกสารต่าง ๆ และยังสามารถดูพิกัดพื้นที่สวนยางของตนเอง รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกเช่นกัน 

 

 

 

 แอปพลิเคชัน RAOT GIS   จะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยาง สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการทำสวนยางในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารข้อมูลสวนปลูกแทน สวนประกันรายได้  วิเคราะห์และบริการข้อมูลรายงานเชิงพื้นที่  ตลอดจนรายงานการปลูกแทนตามอายุและประเภทยางพารา ความเหมาะสมของดินสำหรับการปลูกยางและพืชชนิดอื่นๆ  คาดการณ์การใช้ปุ๋ย  การวิเคราะห์ข้อมูลด้านการขนส่ง  รวมทั้งการค้นหาสถานที่ตั้งของ กยท. ทั่วประเทศ 

 

 

 


ทั้งนี้ สำหรับกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรปดังกล่าว ได้กำหนดให้การนำเข้ายาง และผลิตภัณฑ์จากยาง จะต้องมาจากสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย  ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ป่า และไม่ทำลายป่า รวมถึงการจัดการสวนยางพารา ที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม  ซึ่งสวนยางพาราของไทยส่วนใหญ่จะเป็นไปตามที่ กฎหมาย EUDR กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม สวนยางพาราที่ไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับ และไม่เป็นตามกฎหมาย EUDR  ก็ยังสามารถขายยางไปยังตลาดต่างประเทศอื่นๆ ได้ เช่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่รับซื้อยางจากประเทศไทยมากที่สุดยังไม่ได้นำกฎหมายดังกล่าว มาใช้เป็นเงื่อนไขในการซื้อขายยาง