ชวนหาคำตอบ 'เงินดิจิทัล 10,000 บาท' ใช้ 'บล็อกเชน' หรือ 'เป๋าตัง'
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยืนยัน 'เงินดิจิทัล 10,000 บาทง ใช้ 'บล็อกเชน' สร้าง เศรษฐกิจดิจิทัลให้ประเทศ 'หมอมิ้ง' ลั่นทำสำเร็จตามกรอบเวลาแน่ 'ศิริกัญญา' แนะใช้ 'เป๋าตัง' ทำได้เร็ว กระตุ้นเศรษฐกิจ เตือนยืมเงินรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้าน ระวังกรอบวินัยการเงินการคลังเสีย
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง(รมช.คลัง) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเรื่องช่องทางการจ่ายเงิน ‘เงินดิจิทัล 10,000 บาท’ หรือ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า นโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain (เทคโนโลยีบล็อกเชน)อยู่เบื้องหลัง ซึ่งถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากเทคโนโลยีแบบเดิม เพื่อประโยชน์ของการพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
หมอมิ้ง เชื่อมั่น เงินดิจิทัล เสร็จทันกรอบเวลา
ขณะที่ ‘หมอมิ้ง’ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึง นโยบาย 'เงินดิจิทัล 10,000 บาท' พอจะชี้แจงได้หรือไม่ ว่าจะหาเงินส่วนไหนมาแจกประชาชน ได้สำเร็จตามกรอบที่วางไว้ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น นพ.พรหมินทร์ อธิบายว่า ส่วนตัวมองว่า คณะทำงานกำลังทำงานอยู่ ค่อยไปดูรายละเอียดวันที่ออกมาพร้อมแน่นอน
ส่วนการจะตอบคำถามต่อสภานั้น จะต้องขอปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อะไรที่ยังครึ่งๆ กลางๆ อย่าเพิ่งเอาไปวิจารณ์ เพราะเราเชื่อมั่นว่า ทำสำเร็จแน่นอน และพร้อมเมื่อไหร่เราบอกประชาชนทันที
ศิริกัญญา แนะใช้เป๋าตังทำได้เร็ว
มีรายงานข่าวว่า นโยบาย ‘เงินดิจิทัล10,000 บาท’ ของรัฐบาลเพื่อไทย จะหาแหล่งเงินมาจากการกู้ยืมรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้านบาท นั้น ปรากฏว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลากในโลกโซเชียล มีทั้งเห็นด้วย และเห็นต่าง หนึ่งในจำนวนนั้น มีนักการเมืองจากพรรคก้าวไกล ด้วย
โดย ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล สส.ระบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ทวิตผ่านบัญชีชื่อ Sirikanya Tansakun ข้อความว่า ใช้เป๋าตังทำได้เร็วกว่าค่ะ เหมาะกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าจะยืมเงินรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้าน กรอบวินัยการเงินการคลังตามกฎหมายให้ยืมได้แค่ 32% ของงบ (1.1 ลลบ.) และตอนนี้เกือบเต็มแล้ว ต้องขยายเพดานเป็น 45% ของงบเลยนะคะ