นายกฯมั่นใจ 'กระเป๋าเงินดิจิทัล" เดินหน้าตามโรดแมป - ยินดีรับฟังข้อห่วงใย
นายกรัฐมนตรี ย้ำนโยบาย "กระเป๋าเงินดิจิทัล" หรือ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ที่จะประกาศใช้ได้ ก.พ. 67 มีการเตรียมการไว้แล้ว เพื่อรองรับ เผยการพูดคุยกับ ผู้ว่าการ ธปท. สาระหลักประเมินว่า หากประกาศใช้ไปแล้วผลสะท้อนกลับจะเป็นอย่างไร เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความรัดกุมมากที่สุด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นโยบาย "กระเป๋าเงินดิจิทัล" หรือ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ที่รัฐบาลจะประกาศใช้ในเดือนหน้ากุมภาพันธ์ 2567 ได้มีการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไว้แล้ว โดยเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ได้หารือกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. ) ถึงการประเมินเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาวว่าหากนโยบายออกไปแล้วจะเป็นอย่างไร ภาพที่เครดิตเรตติ้งเอเจนซี่ ประชาชน และนักลงทุนต่างประเทศอยากเห็นเป็นอย่างไร
โดยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ได้ให้คำแนะแนำและแนวทางมา ว่ารัฐบาลควรทำอย่างไรซึ่งก็น้อมรับ นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งน้อมรับคำแนะนำไปพิจารณาและคงจะมีการพูดคุยกันต่อ ส่วนรายละเอียดเรื่องแหล่งเงิน "กระเป๋าเงินดิจิทัล" ที่จะใช้ในโครงการ ขอให้รอฝ่ายที่ดูแลชี้แจง ให้ความมั่นใจว่าหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจขึ้นมา สถานภาพการเงินการคลังของประเทศจะยังแข็งแกร่งแน่นอน ทุกอย่างจะเกิดความรัดกุมมากที่สุด
" ส่วนกรณีค่าเงินบาทอ่อนตัวในขณะนี้ เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง ยืนยัน จะไม่เข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด การที่เงินบาทอ่อนค่า ไม่ได้เป็นผลเสียทั้งหมด แต่เป็นผลดีกับการส่งออก ซึ่งมากถึง 50% ของจีดีพี รวมถึงการท่องเที่ยวที่มากถึง 20% ของจีดีพี ซึ่งจะได้อานิสงส์จากเรื่องนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องดูให้เหมาะสม ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ดูและติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว " นายเศรษฐา ระบุ