'ประชาธิปัตย์ ' สับคนรัฐบาล สุมไฟ คนรวย ขวาง คนจน ปม 'ดิจิทัลวอลเล็ต'
รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอง นโยบายแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" 10,000 บาท กลายเป็นประเด็นให้คนในรัฐบาล นำมาขยายผล คนรวยขัดขวางโครงการเข้าข่ายไม่เห็นหัวคนจน ระบุผู้ที่คัดค้านการแจกเงิน อยู่บนพื้นฐานของการให้มุมมองทางวิชาการ ไม่ได้แยกเขา แยกเรา
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การออกมาคัดค้านนโยบายแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" 10,000 บาท ให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยมีนักวิชาการ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป เนื่องจากต้องใช้เงินสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท
แบ่งความคิดเห็น ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่คัดค้าน ให้ยกเลิกนโยบาย 2. กลุ่มที่ให้ปรับปรุงการแจกเงิน ตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เหวี่ยงแหแจกทุกคน 3. กลุ่มที่สนับสนุนการแจกเงิน ซึ่งส่วนมากคือคนของรัฐบาล อย่างไรก็ตามการที่คนของรัฐบาล ออกมาตอบโต้ผู้ที่เห็นต่างว่า ต่อ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ว่า "เป็นพวกอยู่ดีมีกิน สุขสบาย ไม่เห็นหัวคนที่ยังลำบาก" ตนเห็นว่าเป็นการตอบโต้ที่ไม่เหมาะสม เป็นการทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องคนรวยไม่เห็นด้วยที่จะแจกเงินให้คนจน
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่คัดค้านและคนที่เห็นต่าง ไม่ได้แสดงความคิดเห็น บนพื้นฐานของสถานะทางเศรษฐกิจสังคมที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เรื่องของคนอยู่ดีมีกิน กับคนที่ลำบาก แต่แสดงความคิดเห็น บนเนื้อหาสาระข้อมูล ในเชิงวิชาการ ที่แตกต่างจากของรัฐบาลมากกว่าคนของรัฐบาลจึงควร ชี้แจงด้วยข้อมูลเนื้อหาสาระ จะเหมาะสมกว่า ไม่ควรเอาความคิดเห็นที่แตกต่าง มาสร้างความแตกแยกทางสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่ควรทำอย่างยิ่งนายองอาจ ระบุ
.
"เพื่อไทย "ท่องคาถา เป้าหมายโครงการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
.
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการที่มีกลุ่มบุคคลเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยอ้าง การคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศกําลังอยู่ในภาวะฟื้นตัว รัฐบาลจึงไม่เป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินจํานวนมากเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
เรื่องนี้มีข้อพิจารณาาว่าหากเปรียบเทียบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กับประเทศในกลุ่มอาเซียน จะเห็นว่าไทยยังมีอัตราการเติบโตหรือฟื้นตัวที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่มาก เป้าหมายของรัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มุ่งหวังจะสร้างการเติบโตเฉลี่ยตลอด 4 ปี ที่ 5% นั้นจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายและเป็นความหวังในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้เป็นจริง
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นการเติมกำลังซื้อครั้งใหญ่ให้ประเทศ กระจายอยู่ในทุกชุมชน จำนวนเงิน 10,000 บาท ต่อ คน จึงไม่ใช่แค่ช่วยเหลือบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้ประชาชนเดินต่อได้ แต่มากพอที่จะดึงดูดการลงทุน เปิดธุรกิจใหม่ๆ มารองรับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้น และหมุนวนรอบต่อไปเรื่อยๆ เพราะเงินจำนวนนี้จะหมุนเวียนต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจของไทย
ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย
.
ในส่วนของความกังวลเรื่องที่มาของเงิน และมาตรการในการดำเนินนโยบายต่างๆ ที่อาจไม่รัดกุม รัฐบาลได้ตัดสินใจตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่ประสานความเห็นและมุมมองที่รอบด้านจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ และอีกหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาเป็นกรรมการในการร่วมตัดสินใจในการดำเนินนโยบาย จึงทำให้มั่นใจได้ว่า การตัดสินใจใดๆ จะเป็นไปด้วยความรัดกุม โปร่งใสและรักษาผลประโยชน์ให้ประชาชนมากที่สุด
"รัฐบาลมีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอย่างรวดเร็ว เป็นการปั้มหัวใจเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วน เพื่อปลุกกำลังซื้อให้ฟื้นตัว ช่วยให้เศรษฐกิจประเทศพ้นจากโคม่า จากนั้นรัฐบาลก็จะมีนโยบายอื่นๆ เข้ามาเสริมเพื่อให้ประชาชนสามารถสร้างรายได้ เศรษฐกิจหมุมเวียน ซึ่งจะเป็นการฟื้นประเทศไทยให้มีความสามารถในแข่งขัน โดยยึดกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างรัดกุม" เขา กล่าว