ข่าว

อัยการฯ ส่งหนังสือด่วนให้ DSI ตาม ’วนรัชต์’  ส่งฟ้องคดี 'หุ้น STARK'

อัยการฯ ส่งหนังสือด่วนให้ DSI ตาม ’วนรัชต์’ ส่งฟ้องคดี 'หุ้น STARK'

09 ก.พ. 2567

อัยการสำนักงานคดีพิเศษ ส่งหนังสือด่วนถึง 'อธิบดีดีเอสไอ' ติดตาม 'วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ' มาส่งฟ้อง คดีหุ้น 'STARK' หลังให้ทนายขอเลื่อนอ้างป่วยกะทันหัน ชี้ มีพฤติกรรมหลบหนี

9 ก.พ. 2567 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ได้นำตัว นายกิตติศักดิ์ และ นางสาวยสบวร  ผู้ต้องหาที่ 5 และ ผู้ต้องหาที่ 11 ในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  STARK  ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าของความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา

 

โดยก่อนหน้านี้ ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาไปเเล้ว 7 ราย เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2567 

 

นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ

 

 

นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทราบนัดเเต่ไม่เดินทางพบพนักงานอัยการ โดยมีรายงานว่าได้ประสานผ่านทางทนายความขอเลื่อนเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทาง สำนักงานอัยการคดีพิเศษ1 ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหา ความว่า ตามที่ดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 57/2566 คดีที่มีการกล่าวหา นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวกรวม 12 คน ผู้ต้องหา ในความผิดฐานกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ร่วมกันกระทำการลงข้อความเท็จในบัญชีหรือเอกสาร ของบริษัทร่วมกันทุจริตหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความนเป็นเท็จแก่ประชาชนหรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงจัดการทรัพย์สินของนิติบุคคลโดยมิชอบเบียดบังทรัพย์สินเป็นของตนเองหรือผู้อื่นแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณา

 

 

อัยการฯแจ้ง ดีเอสไอ ติดตามตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK

 


ต่อมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว
แล้ว มีคำสั่งฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ
ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายหรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว , ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมกรบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย , กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พรบ.
นี้ โดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควร บอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ , กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตามพรบ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ

1. ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว

2.ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น หรือ

3. ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ , ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง
หรือบุคคลที่สาม ตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41,
343

 

แต่เนื่องจากนายวนรัชต์  ผู้ต้องหาที่ 2 หลบหนีไม่มารายงานตัวตามกำหนดนัด จึงขอให้จัดการติดตามให้ได้ตัวผู้ต้องหามาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันกระทำความผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ต้องหาที่ 2 อยู่ต่างประเทศให้จัดการให้ได้ตัวมา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 141วรรคท้าย (ส่งผู้ร้ายข้ามเเดน)โดยให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเคร่งครัด และตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดให้ครบถ้วน