ไทยไม่น้อยหน้า ติด 10 อันดับ มหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก | คมชัดลึก

11 ก.ค. 2567 สื่อต่างประเทศ รายงานข้อมูลจาก UBS Global Wealth 2024  โดยในรายงานฉบับที่ 15 เผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความมั่งคั่งของทั่วโลก ประจำปี  2567

 

ซึ่งจากรายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีความมั่งคั่งขึ้นทะลุ 30% และคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2571 เศรษฐกิจโลกจะมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอีกเป็น 32%

 

นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นอีกว่า แน้วโน้มจำนวนมหาเศรษฐีของแต่ละภูมิภาคในโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื้อง ภายใน 5 ข้างหน้า โดยความอู่ฟู่และการเพิ่มขึ้นของมหาเศรษฐีนี้เกิดขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็ก ซึ่งตรงข้ามกับสหราชอาณาจักรที่จำนวนมหาเศรษฐีลดน้อยลง หรือสวนทางกับที่อื่นๆ

 

 

10 อันดับประเทศ ที่จำนวน มหาเศรษฐี จะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า

1. ไต้หวัน จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 47% จาก 788,799 คน  เป็น 1,158,239 คน
2. ตุรกี จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 43% คาดการณ์ว่าจาก 60,787คน  เป็น 87,077 คน
3. คาซัคสถาน จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 37% คาดการณ์ว่าจาก 44,307 คน  เป็น 60,874 คน
4. อินโดนีเซีย จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 32% คาดการณ์ว่าจาก 178,605 คน  เป็น 235,136 คน
5. ญี่ปุ่น จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 28% คาดการณ์ว่าจาก 2,827,956 คน  เป็น 3,625,208 คน
6. เกาหลีใต้ จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 27% คาดการณ์ว่าจาก 1,295,674 คน  เป็น 1,643,799 คน
7. อิสราเอล จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 26% คาดการณ์ว่าจาก 179,905 คน  เป็น 226,226 คน
8. ไต้หวัน จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 24% คาดการณ์ว่าจาก 331,538 คน  เป็น 411,652 คน
9. ไทย จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น   24% คาดการณ์ว่าจาก 100,001 คน  เป็น 123,531 คน
10. สวีเดน จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น   22% คาดการณ์ว่าจาก 575,426  เป็น 703,216 คน

 

 

จำนวนมหาเศรษฐีจากทั่วโลก

• สหรัฐอเมริกา 38%
• ยุโรปตะวันตก 28%
• จีน 10%
• ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทยรวมกันคิดเป็น 10%

 

 

นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกา ถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐที่มีเงินสด 1 ล้านดอลลาร์ ขึ้นไป มากที่สุดเป็นอันดับ 1คือมีจำนวนมหาเศรษฐี 22 ล้านคน รองลงมาคือจีนจำนวน 6 ล้านคน และอันดับ 3 เป็นของสหราชอาณาจักร จำนวน 3 ล้านคน

 

อย่างไรก็ตาม รายงานนี้เป็นเพียงการคาดการณ์ แนวโน้มความมั่งคั่ง และแนวโน้มมหาเศรษฐีที่จะเพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีเท่านั้น

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ