ข่าว

ยังไม่จ่าย กทม. ยื้อหนี้ BTS 1.4 หมื่นล้าน แบกดอกเบี้ยวันละ 7 ล้าน รอหวังยื่นฟื้นคดี

30 ส.ค. 2567
กทม. - กรุงเทพธนาคม ดึงเกมยื้อหนี้ รั้งจ่าย 14,000 ล้าน แบกดอกเบี้ยวันละ 7 ล้าน ส่งตีความปม ปปช. รอหวังฟื้นคดีใหม่

KEY

POINTS

  • เกมหนี้เรื้อรัง กรุงเทพฯ ดึงเชง ยื้อจ่าย 14,000 ล้าน หลังศาลพิพากษา
  • ชำแหละหนี้ 4 ส่วน วงเงิน 39,402 ล้านบาท
  • กทม. - กรุงเทพธนาคม ดึงเกมยื้อหนี้ ส่งตีความปม ปปช. รอหวังฟื้นคดีใหม่ 

ปัญหาหนี้สินระหว่าง กรุงเทพมหานคร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ยังคงเรื้อรังต่อเนื่อง แม้จะมีคำสั่งศาล ให้ กทม. จ่ายหนี้ 14,000 ล้าน 

 

โดย การเจรจาชำระหนี้ และจ่ายหนี้ค่าจ้างวางระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 เพื่อชำระหนี้ค่าติดตั้งระบบรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง , สะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ , หมอชิต-คูคต วงเงิน 23,091 ล้านบาท 

 

ในขณะที่ หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ยังไม่มีการชำระถึงแม้ว่าศาลปกครองสูงสุด จะมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2567 ให้กรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง ส่วนต่อขยายให้ BTS

 

ยังไม่จ่าย กทม. ยื้อหนี้ BTS 1.4 หมื่นล้าน แบกดอกเบี้ยวันละ 7 ล้าน รอหวังยื่นฟื้นคดี

ชำแหละหนี้ 4 ส่วน วงเงิน 39,402 ล้านบาท

 

กรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ต้องชำระแบ่งเป็น 4 ส่วน รวมหนี้ถึงวันที่ 25 ก.ค.2567 มีวงเงินถึง 39,402 ล้านบาท คือ 

 

1.)หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 ตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 ถึง พ.ค.2564 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน เม.ย.2560 ถึง พ.ค.2564 ซึ่งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ชำระ 11,755 ล้านบาท ภายใน 180 วัน พร้อมดอกเบี้ยสําหรับลูกค้า รายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) บวก 1% ต่อปี รวมแล้วประมาณ 14,000 ล้านบาท

 

2.)หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2564 ถึง ต.ค.2565 วงเงิน 11,811 ล้านบาท โดย BTS ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางวันที่ 22 พ.ย.2565 และอยู่ขั้นตอนพิจารณาของศาลปกครองกลาง โดยถ้ามีคำพิพากษาในทิศทางเดียวกับคดีแรกจะทำให้กรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคาร จำกัด ต้องชำระอัตราดอกเบี้ยอัตราเดียวกัน

 

3.)หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน พ.ย.2565 ถึง มิ.ย.2567 วงเงิน 13,513 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย ซึ่งผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้ายังไม่ได้ยื่นฟ้องตอศาลปกครองกลาง

 

4.)หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2567 ถึงปัจจุบัน โดยสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายจะสิ้นสุดปี 2585

 

ยังไม่จ่าย กทม. ยื้อหนี้ BTS 1.4 หมื่นล้าน แบกดอกเบี้ยวันละ 7 ล้าน รอหวังยื่นฟื้นคดี

 

กทม. - กรุงเทพธนาคม ดึงเกมยื้อหนี้ ส่งตีความปม ปปช. รอหวังฟื้นคดีใหม่ 

 

หลัง คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ให้ กทม. ชำระหนี้ BTS วงเงินพร้อมดอกเบี้ย 14,000 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ได้สอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว โดยได้อ้างถึงเหตุผลกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2566 แจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพวกรวม 13 คน 

 

กรณีว่าจ้าง BTS เพื่อเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ถึงปี 2585 โดยหลีกเลี่ยงและไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542

 

ในขณะที่คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้ระบุถึงสัญญาจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงเป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้ว่ากรุงเทพมหานครจะมีการอ้างถึงสัญญาส่วนต่อขยายที่ 2 ที่ยังไม่เสนอสภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นชอบ ซึ่งทำให้ต้องชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถดังกล่าว เพราะการที่ ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาในประเด็นดังกล่าว ไม่มีผลต่อสัญญา

 

ส่วนกรณีที่กรุงเทพมหานคร ระบุถึงการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.เป็นการทำสัญญาส่วนต่อขยายที่ 1 แต่ปัจจุบันกรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้มีการจ่ายเงินส่วนที่ขาดของค่าโดยสารให้ BTS

 

นายธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การชำระค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงิน 11,755 ล้านบาท ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2567 

 

ขณะนี้บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด อยู่ระหว่างหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับประเด็นข้อกล่าวหาที่เกี่ยวเนื่องต่อการทำสัญญาจ้างงาน O&M เพื่อทำให้เรื่องนี้มีความละเอียดรอบคอบก่อนการชำระค่าจ้างงานดังกล่าว

 

ทั้งนี้ หากท้ายที่สุดมีการชี้มูลว่าสัญญาจ้างผิดจริงนั้น บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และกรุงเทพมหานคร อาจต้องยื่นขอรื้อฟื้นคดีข้อพิพาทเกี่ยวกับการจ้างงานเดินรถ O&M เพื่อให้เข้าสู่กระบวการศาลปกครองพิจารณา 

 

แต่หากสัญญาจ้างงานดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และกรุงเทพมหานครก็พร้อมที่จะดำเนินการชำระค่าจ้างงาน O&M ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินไว้ โดยขณะนี้ขอให้รอการตีความเกี่ยวกับข้อมูลจาก ป.ป.ช.ให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาก่อนครบกำหนดศาลให้ชำระค่าจ้างแต่เอกชนภายใน 180 วันนับจากวันที่ศาลมีคำตัดสิน

 

ข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ