ไลฟ์สไตล์

วิจัยชี้เด็กไทยมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน

วิจัยชี้เด็กไทยมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน

23 ก.พ. 2563

วิจัยชี้เด็กไทย มีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน เมื่อเข้าสู่ระบบการศึกษา เผยปิดเทอมสร้างสรรค์หนุนจัดลานเล่นให้เด็ก"เล่นอิสระ"เสริมพัฒนาการ ระบุมีงานพาร์ทไทม์กว่า 1 หมื่นตำแหน่งรองรับนร./นศ.

 

 

               ​เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์  2563  ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดงานแถลงข่าวปิดเทอมสร้างสรรค์อัศจรรย์วันว่าง ประจำปี 2563 โดย ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส.ดำเนินโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง โดยริเริ่มให้เกิดแพลตฟอร์มออนไลน์ในชื่อ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com  เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูล เชื่อมร้อยกิจกรรมจากทุกหน่วยงาน สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กโต และพื้นที่ “เล่นอิสระ” สำหรับเด็กเล็ก

 

 อ่านข่าว : GEN Yใช้เงินมือเติบกับ'ของมันต้องมี' 8 เท่าของไฮสปีดเทรน

 

            โดยในปี 2562 ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมทั้งสิ้น 298 หน่วยงาน จัดกิจกรรมในช่วงปิดเทอมกลางภาคและปิดเทอมใหญ่ 2,228 กิจกรรม ครอบคลุมเด็กและเยาวชนที่มีโอกาสเข้าร่วมอย่างน้อย 111,400 คน ตลอดจนนักเรียนนักศึกษามีโอกาสฝึกงาน/ทำงานพาร์ทไทม์กว่า 10,000 ตำแหน่ง โดยมีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาค

 

           ในปี2563นี้  คาดว่าจะมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,500 กิจกรรม รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษอีก 10,000 ตำแหน่ง ขณะที่ส่วนภูมิภาคใน 15 จังหวัด มีหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมเพิ่มขึ้น มีกิจกรรมน่าสนใจสำหรับเด็กเยาวชนครอบคลุมทั่วประเทศ

 

 

วิจัยชี้เด็กไทยมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน

          นอกจากนี้ สสส.ยังสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมของภาคี สสส. มากกว่า 400 กิจกรรม และประสานความร่วมมือกับภาคีหน่วยงานต่างๆ ในส่วนภูมิภาค เรียกว่าเป็น “นักจัดการเครือข่ายปิดเทอมสร้างสรรค์” ส่งผลให้เกิดความร่วมมือในระดับจังหวัด ซึ่งมีการประกาศเป็นวาระของจังหวัดพร้อมกับจัดให้มีกิจกรรมเปิดตัวโครงการร่วมกัน เช่นที่จังหวัดเลย ศรีสะเกษ เป็นต้น 


         

 

 

          ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ปิดเทอมสร้างสรรค์ ในปี 2562 จากข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 23 ธ.ค. 2562 จำนวนผู้เข้าเว็บไซต์ 120,030 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 4 เท่า  โดยปี 2561 มีผู้เข้าเว็บไซต์ตลอดทั้งปี 35,291 คน

 

          นอกจากนี้ ผลการสำรวจความต้องการและความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 1,930 คน ซึ่งเป็นเพศหญิงมากกว่าชาย และอยู่ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมากกว่ากลุ่มวัยอื่น พบว่า มีความพึงพอใจมากกว่าร้อยละ 80

 

วิจัยชี้เด็กไทยมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน

 

          โดยในปี 2562 พบสถิติการใช้เวลาเล่นมือถือ/อินเตอร์เน็ตในช่วงปิดเทอมลดลงกว่าปี 2561 เล็กน้อย จากร้อยละ 20.3 เหลือร้อยละ 18.2 การเที่ยวห้างสรรพสินค้าลดลงจากร้อยละ 12.3 เหลือ 8.6 การเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด การเข้าค่ายกิจกรรม และการทำงานพิเศษ มีอัตราเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.3 เป็นร้อยละ 14.5 , จากร้อยละ 10.3 เป็นร้อยละ 11.5 และจากร้อยละ 8.5 เป็นร้อยละ 10.6 ตามลำดับ

 

          สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ในช่วงปิดเทอมมาจาก 3 ปัจจัยหลักได้แก่ กิจกรรมตรงใจ ร้อยละ 38.7 , มีเพื่อนหรือผู้ปกครองไปด้วย ร้อยละ 28 และเดินทางใกล้ สะดวกสบาย ร้อยละ 23.4

 

​          นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สสส. กล่าวว่า ในปีนี้นอกจากสสส.จะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในเด็กระดับประถมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ในกลุ่มเด็กเล็ก 2-8 ปี สสส. ส่งเสริมให้เด็กเข้าถึงโอกาสในการเล่นอย่างอิสระ (Free Play) ซึ่งเป็นการเล่นที่เกิดขึ้นจากความต้องการภายในของเด็ก โดยที่เด็กออกแบบ กฏ กติกา ขอบเขตของการเล่นเองสร้างการเรียนรู้และส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านอย่างอิสระ เช่น เด็กเล่นกับกองทราย กล่องกระดาษ วัสดุเหลือใช้ หรือเล่นบทบาทสมมติ ฯลฯ ในพื้นที่ที่มีการจัดการอย่างสร้างสรรค์ เหมาะสม และปลอดภัย  

 

          “ทุกวันนี้เด็กไทยมีเวลาเล่นน้อยลง รายงานวิจัยพบว่าเมื่อเข้าสู่ระบบการศึกษาที่เน้นวิชาการ เด็กจะมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวันโดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องเรียนและการเรียนพิเศษ จึงต้องเร่งสร้างความตระหนักในกลุ่มผู้ใหญ่เพื่อให้เข้าใจในความสำคัญของการเล่นอิสระของเด็ก ที่สำคัญในยุคดิจิทัลเราไม่สามารถปิดกั้นหรือห้ามไม่ให้เด็กเล่นสื่อได้

 

          ดังนั้น การเล่นอิสระตามความสนใจของเด็กนับเป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการและทักษะชีวิตของเด็ก และยังช่วยลดการใช้เวลาหน้าจอของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี โดยการให้เด็กเล่นกับชิ้นส่วนที่หลากหลายเคลื่อนย้ายได้ หรือ Loose Parts Play ซึ่งเป็นของเล่นปลายเปิด  เด็กสามารถจินตนาการเชื่อมโยงอย่างไร้ขอบเขตในแบบเฉพาะของเด็กเอง ค้นพบสิ่งใหม่  เกิดประสบการณ์ใหม่  ที่มีความเฉพาะของแต่ละคนอย่างอิสระ ทำให้เด็กค้นพบตัวเอง เห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัว เช่น น้ำ ทราย ดิน กิ่งไม้ ใบไม้ โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ใช้งบประมาณน้อย ในแต่ละบ้าน แต่ละชุมชน สามารถจัดหาพื้นที่ว่างหรือ “ลานเล่น” ให้เด็กเล่นอย่างอิสระ จัดระบบการดูแลความปลอดภัยโดยใช้อาสาสมัครหรือจิตอาสาจากพ่อแม่ผู้ปกครองคอยดูแลเด็กๆ


       

 

 

          สำหรับเว็บไซต์ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com ช่วยให้เด็ก เยาวชน ผู้ปกครอง และ/หรือคุณครู ค้นหากิจกรรมได้ง่าย อย่างหลากหล่ายและโดนใจ ณ จุดบริการเดียว ถือเป็นเว็บไซต์ที่มีข้อมูลกิจกรรมช่วงปิดเทอมที่มีข้อมูลกิจกรรมมากที่สุด

         

 

วิจัยชี้เด็กไทยมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน

          สำหรับรูปแบบกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม ปลดปล่อยศักยภาพ ค้นหาแววในการทำงาน ตลอดจนความสุขในการเรียนรู้สู่โลกกว้าง ให้ครบทุกมิติ ผ่าน 4 หมวดกิจกรรม คือ

 

          1. ตามหาฝัน : ร้อง เต้น เล่นดนตรี ศิลปะและกีฬา เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมายที่จะให้ทดลองในสิ่งที่อยากทำ

          2. แบ่งปันสังคม : อยากแบ่งปันสังคม มาร่วมด้วยช่วยกันกับพื้นที่นี้ กิจกรรมจิตอาสาเพื่อผู้อื่น ๆ

          3. ค้นหาตัวตน : ฝึกงานในอาชีพที่ใช่ อยากทำงานมีรายได้พิเศษ ฝึกทักษะชีวิตเพื่อสร้างความแข็งแกร่งกับตัวเอง

          4.  เปิดโลกเรียนรู้ :พื้นที่และกิจกรรมที่จะทำให้เราได้เรียนรู้โลกได้กว้างขึ้น เพิ่มจินตนาการแห่งการเรียนรู้

 

          สนใจข้อมูลกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ในช่วงปิดเทอม สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซด์ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com , Twitter @pidterm