ข่าว

"ราชภัฏโคราช" สานพลังอุดมศึกษา มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย

"ราชภัฏโคราช" สานพลังอุดมศึกษา มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย

09 พ.ย. 2565

"ราชภัฏโคราช" สานพลังอุดมศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ขับเคลื่อนนโยบาย อว. จัดการศึกษาพัฒนาคนทุกช่วงวัย(Life Long Learning)

วันนี้(9 พฤศจิกายน 2565) ที่ห้องประชุมสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ๒ อาคารยุพราขเบญจมงคล มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ศาสตราจารย์(พิเศษ)ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงอว. ด้านการสร้างและพัฒนาคนให้เป็น Smart Citizen เปิดโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) ทุกช่วงวัย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ 

 

สร้างระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ตามความต้องการของผู้เรียน (Modular System) พัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนแบบใหม่ผ่านออนไลน์ พัฒนาแพลตฟอร์มการสร้างและพัฒนาคนให้มีคุณภาพสู่ศตวรรษที่ ๒๑ มีงานทําในสาขาอาชีพใหม่ ๆ หรือ เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ พัฒนาทักษะแห่งอนาคตของคนวัยทํางาน (Skill for the future) ทั้ง Upskill และ Reskill รวมถึงการศึกษาสําหรับคนสูงวัย 

 

โดยจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ฉบับ ดังนี้

 1. ความร่วมมือว่าด้วยเครือข่ายคลังหน่วยกิต ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราขสีมา กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี โดยทั้งสามมหาวิทยาลัยจะร่วมกันพัฒนารายวิชาในลักษณะมอดูลที่มีผลลัพธ์การเรียนรู้ที่สามารถเทียบโอนระหว่างมหาวิทยาลัยได้ สร้างแพลตฟอร์มการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อเปิดสอนมอดูลร่วมให้กับนักศึกษา และบุคคลภายนอกที่สนใจได้เรียนรู้เพิ่มทักษะ รับสัมฤทธิบัตร หรือสะสมหน่วยกิตในการเรียนระดับปริญญา อีกทั้งยังจัดทำคลังหน่วยกิตของแต่ละมหาวิทยาลัย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยกิตในคลังหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยที่ลงทะเบียนเรียน หรือนำไปเทียบโอน เพื่อสะสมในคลังหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยในเครือข่ายได้

ศาสตราจารย์(พิเศษ)ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์

“ราชภัฏโคราช” สานพลังอุดมศึกษา มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย

 

2.ความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากรแบบ ๒ ปริญญา ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยทั้งสองมหาวิทยาลัยจะร่วมกันจัดการศึกษาให้กับบุคลากรและครอบครัวของห้าหน่วยงาน ได้แก่ กองทัพภาคที่ ๒ ตำรวจภูธรภาค ๓ กองบิน ๑ และศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค ๓ ให้ได้รับคุณวุฒิปริญญาสองสาขาวิชาในเวลาเดียวกัน คือ สาขานิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยผู้เรียนเพียงสมัครเข้าศึกษากับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ชำระค่าลงทะเบียนที่เดียวแต่ได้สิทธิ์เป็นนักศึกษาของสองสถาบันทันที นอกจากนี้ทั้งสองมหาวิทยาลัยยังจัดทำหลักสูตร และรูปแบบการเรียนเฉพาะที่เอื้อกับผู้เรียนซึ่งอยู่ในวัยทำงาน และสองหลักสูตรใช้วิชาร่วมกันทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนจบสองปริญญาได้ภายใน ๔ ปี และ

 

3. ความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน และบริการวิชาการเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมากับศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช เพื่อการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเชื่อมโยงการประยุกต์ใช้ความรู้สู่การปฏิบัติ การพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้สู่การสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ ทำให้บัณฑิตมีสมรรถนะและคุณลักษณะที่พร้อมในการปฏิบัติงาน พร้อมสู่โลกแห่งการทำงานจริงได้ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา โดยการจัดให้มีการเรียนการสอนภาคทฤษฎีในมหาวิทยาลัยส่วนหนึ่ง และการจัดการเรียนการสอนภาคทฤษฎีและการปฏิบัติงานจริงในศูนย์การค้า เช่น การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน(Project-based Learning) การใช้กรณีศึกษา(Case-based Learning) ภายในศูนย์การค้า เป็นต้น รวมทั้งร่วมจัดทำโครงการต่อยอดภารกิจด้านการบริการวิชาการและการพัฒนาท้องถิ่นของมหาวิทยาลัย และกิจกรรมเพื่อสังคม(Corporate Social Responsibility : CSR) ของศูนย์การค้าอีกด้วย

 

นอกจากนี้ ก่อนพิธีลงนามความร่วมมือนายสุวัจน์ ได้ให้เกียรติบรรยายพิเศษในหัวข้อ “สานพลังอุดมศึกษาพัฒนาโคราช” โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่า ทั้ง3 มหาวิทยาลัยหลักของโคราชต่างก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเด่นด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเด่นเทคโนโลยีเฉพาะทางโดยเฉพาะระบบราง และการพัฒนากำลังด้านเทคโนโลยีอาชีวศึกษา ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเด่นด้านสังคมศาสตร์ การผลิตครู และการพัฒนาท้องถิ่น 

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

 

“ดังนั้นหากทั้ง 3 มหาวิทยาลัยจับมือกัน ผมเชื่อว่าจะพัฒนาโคราชให้เป็นมหานครแห่งภาคอีสานได้อย่างแน่นอน”นายสุวัจน์ กล่าว

 

ส่วนรัฐมนตรีอว. ได้มอบนโยบายและบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายของอุดมศึกษาไทย” ซึ่งรัฐมนตรีอว. ได้มอบนโยบายให้มหาวิทยาลัยควรปรับเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการส่งอาจารย์ไปเรียนต่างประเทศ(Import) แล้วกลับมาถ่ายทอดเนื้อหา แต่ควรสร้างสรรค์องค์ความรู้สร้างหลักสูตรที่เป็นอัตลักษณ์ของตนเอง เพื่อดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาเรียน(Export) และจากการที่แต่ละมหาวิทยาลัยมีต้นทุนด้านปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อม เช่น อาคารสถานที่ ห้องปฏิบัติการ สนามกีฬา ฯลฯ ควรเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่โดยให้มีการจ้างงานนักศึกษา และเปิดให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย

 

"การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้านกำลังคน ตามนโยบายด้านการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่ให้โอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงองค์ความรู้และนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ตลอดจนพัฒนาสมรรถนะกำลังคนของประเทศ ทั้งทักษะด้านวิชาชีพและทักษะด้านสังคม ให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสืบไป"

\"ราชภัฏโคราช\" สานพลังอุดมศึกษา มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย

\"ราชภัฏโคราช\" สานพลังอุดมศึกษา มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย

\"ราชภัฏโคราช\" สานพลังอุดมศึกษา มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2

Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/