ข่าว

‘ทรงผมนักเรียน’ ใครควรชี้ขาด ใครควรแก้ปัญหา

‘ทรงผมนักเรียน’ ใครควรชี้ขาด ใครควรแก้ปัญหา

09 ก.พ. 2566

ตรีนุช เทียนทอง อาศัยอำนาจ รมว.ศธ. ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการมอบอำนาจ ในการตัดสินใจ เรื่อง ‘ทรงผมนักเรียน’ ให้กับโรงเรียน โดยไม่พิจารณาให้รอบครอบ เมื่อเกิดปัญหา ใครควรจะตัดสินใจ

มหากาพย์ ทรงผมนักเรียน ตั้งคำถาม ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) ให้แต่ละโรงเรียน กำหนดระเบียบเอง สั่งแล้วต้องรับผิดชอบ

 

ล่าสุเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2566 ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. ได้โพสต์ข้อความ ผ่าน เพจ ตรีนุช เทียนทอง Treenuch Thienthong ว่า “กรณีครูกล้อนผมนักเรียนที่ จ.เพชรบูรณ์ ดิฉันได้ดูคลิปแล้วต้องยอมรับว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ ได้ยกเลิกระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน และกำลังยกร่างแนวนโยบายกำหนดระเบียบการไว้ทรงผมของสถานศึกษาเพื่อเป็นแนวทางของสถานศึกษาต่อไป

 

ส่วนการลงโทษนักเรียนด้วยการกล้อนผมต้องแยกเป็นอีกกรณี ซึ่ง ศธ. ได้วางแนวทางลงโทษนักเรียนไว้เพียง 4 สถานเท่านั้น ได้แก่ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การกระทำของครูรายดังกล่าว แม้จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว แต่ขัดกับแนวทางการลงโทษนักเรียน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งดิฉันได้สั่งการให้ สพฐ. ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้ง ผอ.รร. และครู หากพบว่าไม่ถูกต้อง ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไปค่ะ”

 

ย้อนความก่อนว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ถูกเปิดเผยจากเพจ “นักเรียนเลว” มีข้อความประกอบภาพ คุณครูกำลังตัดผมนักเรียน หลังมีการเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล และสื่อต่างๆ ก็ให้ความสนใจ ติดตามข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อสังคม

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2566 ที่บริเวณหน้าเสาธง ของโรงเรียน และผู้อำนวยการโรงเรียนก็ออกมาชี้แจง ว่า “รับทราบในการกระทำดังกล่าวของครูในภาพ” พร้อมยืนยันว่า “ครูมีเจตนาดี ”เหตุที่ตัดผมนักเรียนเพื่อเป็นการทำเครื่องหมายไว้ก่อนที่จะนำช่างมาตัดผมให้นักเรียนในเวลาต่อมา และไม่มีนักเรียนคนไหนที่แสดงความไม่พอใจ

 

การให้ข่าวดังกล่าวเหมือนการเติมเชื้อให้กับไฟ กระแสในโลกโซเชียลมีการต่อต้านอย่างรุนแรง มีองค์กรและพรรคการเมืองมาแสดงจุดยืนต่อต้านและแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย แม้แต่ ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. ยังออกมาให้ข่าวเพื่อต้องการยุติปัญหา พร้อมสั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้ง ผู้อำนวยการโรงเรียน และ ครู หากพบว่าไม่ถูกต้อง ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วน

 

ปรากฏการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นภาพของ “ครูรุ่นเก่า” ที่มักอ้างว่า รักเด็กด้วยใจที่เป็นครูเกินร้อย ลงมือกับนักเรียนด้วยความรัก แต่ไม่อยู่ในระเบียบที่กำหนด ไม่สนใจการเปลี่ยนผ่านของกระบวนการทางการศึกษา ยังคงความเป็น “ครูที่ทรงอำนาจ” เป็นตุลาการที่ตัดสินนักเรียน เป็นผู้มีพระคุณที่ไม่มีวันสิ้นสุด เป็นพ่อแม่คนที่ 3 ของนักเรียน 

 

ส่วนใหญ่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับ “ครู” ที่มีอายุมากและใกล้วัยเกษียณอายุราชการ และมักจะจบด้วยคำว่า “แกใกล้เกษียณแล้ว ไม่เป็นไร ปล่อยแกไป” ซึ่งพอประมาณได้ว่า น่าจะเป็นช่วงสุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงของวงการศึกษาไทย รอ “ครูรุ่นใหม่” เข้ามาทดแทน

 

แต่ส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบ คงหนีไม่พ้น ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. เพราะคนที่บอกว่า ให้แต่ละโรงเรียน กำหนดระเบียบเรื่องทรงผมของนักเรียนกันเอง จากการที่ไม่กล้าตัดสินใจ แม้เรื่องเล็กน้อย

 

แล้วเรื่องที่ใหญ่กว่าอย่าง “การปฏิรูปการศึกษา” จะไปคาดหวังอะไรได้ วันหน้าถ้ามีข่าวอะไรทำนองนี้อีก ไม่ต้องแถลงอะไรก็ได้ เพราะวิธีการที่ใช้ก็คงหนีไม่พ้น ตั้งคณะกรรมการๆๆ แล้วก็ตั้งคณะกรรมการ


.....ชัยวัฒน์ ปานนิล...เรียบเรียง