เผือกร้อน สส./สว. ปมปิดฉาก ‘ร่างพ.ร.บ.การศึกษา’ ฉบับใหม่
มหากาพย์ว่าด้วย ‘ร่างพ.ร.บ.การศึกษา’ ฉบับใหม่ ค้างเติ่งอยู่ในสภา เมื่อ สส./สว. ปล่อยมือเผือกร้อน หวั่นกระทบฐานเสียงครูในการเลือกตั้ง66
ค่อนข้างชัดเจน มหากาพย์ว่าด้วย ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ใช้เวลายกร่างยาวนานกว่า 5 ปี คงจบลงด้วยร่างกฎหมายค้างเติ่งอยู่ในสภาต่อไป
เหตุเพราะมีเนื้อหาถึง 128 มาตรา ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาวาระสองไปได้แค่ สามนัด วันที่ 10 มกราคม วันที่ 24 มกราคม 2566 และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เพิ่งผ่านไปได้ 16 มาตรา และ เหลืออีก 112 มาตรา จะปิดสมัยประชุมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้
ขณะที่สภาผุู้แทนราษฎรจะครบวาระ 4 ปีวันที่ 23 มีนาคม 2566 แต่เมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กับ พรรคการเมืองมีผลบังคับใช้แล้ว
และล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาต้นเดือนมีนาคม ทำให้ร่างกฎหมายทุกฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาก็ต้องยุติลงโดยปริยาย
ร่างพ.ร.บ.การศึกษา จัดได้ว่า ่ใช้เวลาดำเนินการยาวนานมากกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหนึ่งแผนเต็มๆ และเป็นภาคบังคับตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 หมวดการปฏิรูปประเทศ
การที่ร่างกฎหมายเป็นหมัน ไช่ว่าจะสูญเปล่าไปทั้งหมด เพราะรัฐบาลสมัยหน้าสามารถหยิบยกขึ้นมาดำเนินการต่อได้ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นมหาศาล โดยเฉพาะโอกาสทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนตลอดจนคนทุกฝ่าย
รัฐบาลพยายามคุยแล้วคุยอีกถึงผลงานสองเรื่อง ว่าเป็นผลสำเร็จของนโยบายปฏิรูปการศึกษา คือการมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กับเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา แต่นั่นเป็นกฎหมายลูก ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของปัญหาความเหลื่อมล้ำและขาดโอกาสทางการศึกษากับปัญหาการขาดความคล่องตัวของสถานศึกษา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับเดิม เมื่อ ปี 2542 ยังมีจุดอ่อนที่ต้องปรับแก้ไข แต่เนื้อหาสาระของร่าง.พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ถูกพรรคร่วมฝ่ายค้านและองค์กรครูมองว่า ล้าหลัง รวมศูนย์อำนาจ ไม่ไว้วางใจครู
เพื่อทำให้หัวใจของการปฏิรูปการศึกษาถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง จำเป็นต้อง ปฎิรูปกระบวนการเรียนการสอน ปฏิรูปครู ปฏิรูปหลักสูตร และปฏิรูปการวัดและประเมินผล ซึ่งต้องกำหนดเอาไว้ในกฏหมายแม่บทด้านการศึกษา
5 ปีของการเดินทาง ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน ส่วนหนึ่ง มีเสียงคัดค้านจาก สส.พรรคเพื่อไทย สส.พรรคก้าวไกล และหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ประสานเสียงกันในช่วงการประชุมร่วมรัฐสภา
เหนืออื่นใด ร่างพ.ร.บ.การศึกษา ฉบับใหม่ กลายเป็นเผือกร้อน อาจจะกระทบฐานเสียงครู ในการเลือกตั้งใหญ่ 2566 หากพรรคร่วมรัฐบาลและสว.ยังยืนกรานจะเข็นให้ผ่านสภาโดยไม่มีการปรับแก้ไขตามที่ครูเรียกร้อง
"กรรมาธิการ 49 คนเพื่อไปร่วมกันปรับปรุงแก้ไขจุดออ่น ร่างพ.ร.บ.การศึกษา เพิ่มข้อดีให้เกิดความสมบูรณ์ หรือ บกพร่องน้อยที่สุด แต่กรรมาธิการเสียงข้างมากที่เป็นสส.พรรคร่วมรัฐบาล และสว.ยืนกรานไม่ยอมปรับแก้ไข เลยเจ๊งไม่เป็นท่า ทำให้ร่างกฎหมายสำคัญนี้มีอันเป็นไป อย่างน่าเสียดาย" รศ.ดร.สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกต
.....กมลทิพย์ ใบเงิน...เรียบเรียง....