หยั่งเสียง ‘เลือกตั้ง66’ ครู คาใจ ช้างป่วย-ม.112
หยั่งเสียง ‘เลือกตั้ง66’ ครู คาใจ ช้างป่วย-ม.112 พรรคก้าวไกล สะเทือนใจข้าราชการบำนาญค่อนประเทศ เผยถึงนาทีนี้ยังไม่มีนโยบายพรรคการเมืองไหนถูกใจ ชูธงเพื่อการศึกษาเด็ก เพื่อครู อย่างจริงใจ ย้ำนโยบายพรรคการเมือง อย่าขัดรัฐธรรมนูญ
ใกล้ยุบสภา ประกาศวัน เลือกตั้ง2566 “คมชัดลึก” ประมวลภาพรวมหยั่งเสียงจากครู องค์กรครู และบุคลากรทางการศึกษา เอาไว้ว่าจนถึงนาทีนี้มีพรรคการเมืองไหนบ้างที่ครูพร้อมเทใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือไม่มีพรรคการเมืองที่ชื่นชอบแม้แต่พรรคเดียว
“ยังไม่มีพรรคการเมืองไหน มีโยบายการศึกษาที่ทำเพื่อเด็กและทำเพื่อครู หรือทำเพื่อชาติ แม้แต่พรรคการเมืองเดียว ส่วนมากลอกๆ กันมา ไม่มีอะไรใหม่ ให้ตื่นเต้น” ครูผู้สอน รายหนึ่งบอกกับคมชัดลึก
ขณะที่ สานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ระบุว่า ติดตามนโยบายพรรคการเมืองมาตลอด แต่ยังไม่มีนโยบายการศึกษาที่ประทับใจแม้แต่พรรคการเมืองเดียว ยังไม่มีความชัดเจน ดูเมือนว่านโยบายด้านการศึกษาพรรคการเมืองบางพรรคไม่คิดจะมีด้วยซ้ำ หรือไม่ให้ความสำคัญ เหมือนนโยบายด้านเศรษฐกิจ หรือ นโยบายประชานิยมที่ทุกพรรคการเมืองเข็นออกมาเยอะมาก มีบางพรรคการเมืองก็วนของเดิมกลับมาใหม่
"ผมยังไม่เห็นความจริงใจจากพรรคการเมือง ว่ามีนโยบายเพื่อเด็ก เพื่อครู เพื่อการศึกษาจริงๆ แต่ที่ครู และอดีตข้าราชการครูทั่วประเทศได้ฟังหัวหน้าพรรคก้าวไกลอภิปรายฯงบช้างป่วยในสภา ฟังแล้วเจ็บจิ๊ด สะเทือนจิตใจมาก แม้วันเวลาผ่านไปแล้ว หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่เคลียร์ในประเด็นนี้ ครู และ อดีตข้าราชการครู คงไม่มีใครลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล" สานิตย์ กล่าวปนเสียงสั่นเครือ
ทั้ง พรรคการเมืองเก่าแก่ และพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ไม่ได้เป็นความหวัง และอนาคตสำหรับเด็กและเยาวชนไทย ในการขับเคลื่อนและพัฒนางานด้านการศึกษาชาติ แต่ สานิตย์ ฝากถึงพรรคการเมืองทุกพรรคว่า ก่อนจะออกนโยบายด้านไหนก็ตาม ขอให้ศึกษากฏหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะนโยบายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญต่อให้สวยหรูดูแพงแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะทำไม่ได้จริง และยังหลอกลวงประชาชน อีกด้วย
สอดคล้องกับ ดร.อวยชัย วะทา นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ สอนการเมืองระดับปริญญาเอก ระบุว่า เสียงครูส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจจะเทคะแนนเสียงให้กับพรรคการเมืองไหน เพราะยังไม่มีพรรคการเมืองที่ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตครู ดูอย่างพรรคพลังประชารัฐเข็นคลีนิคแก้หนี้ครู ความจริงแก้หนี้ครูได้กี่ราย หรือ เป็นการถ่ายโอนหนี้ ครูไปยังเจ้าหนี้ใหม่ แต่ครูยังเป็นหนี้เหมือนเดิม
"เมื่อครูส่วนมากเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ทำไมไม่สร้างธนาคารสหกรณ์ครูไทย หากรวมทุกสหกรณ์ครูทั่วประเทศ จะมีเงินหมุนเวียนในธนาคารสหกรณ์ครูไทยกว่า 2 ล้านล้านบาท จะแก้หนี้ครูทั้งระบบ ส่วนรูปแบบนั้นผมได้ศึกษาเอาไว้หมดแล้ว"
นอกจากนี้ คำว่า “ช้างป่วย-ม.112” นับเป็นคำแสลงใจครู และข้าราชการครูที่เษียณอายุราชการ รวมทั้งครูในระบบและครูเกษียณกว่า 2 ล้านคน จะไม่หนุนพรรคการเมืองที่มีแนวคิดแบบนี้กับข้าราชการบำนาญ และไม่เห็นด้วยกับแนวคิดจะแก้ไขมาตรา 112
ปี่กลองการเมืองเริ่มแล้ว อีกไม่นานเสียงของครู จะเทให้กับพรรคการเมืองไหน หรือ เลือกนโยบายอะไร คงชัดเจนมากขึ้น เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา และ ทุกพรรคการเมืองทะยอนเข็นนโยบายอวดสายตาประชาชน
...กมลทิพย์ ใบเงิน...เรียบเรียง