ข่าว

Exclusive : 'ดร.เอ้' ขอโอกาสชู 'บ้านพักครู-ธนาคารครู' สู้เลือกตั้ง66

Exclusive : 'ดร.เอ้' ขอโอกาสชู 'บ้านพักครู-ธนาคารครู' สู้เลือกตั้ง66

11 พ.ค. 2566

เป็นครูมาทั้งชีวิต ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ขอโอกาสดูแลครู ลดภาระเอกสาร ดัน 'บ้านพักครู' ราคาไม่แพงอยู่สบาย มี 'ธนาคารครู' เป็นหลักประกันชีวิตให้ ครู-อาจารย์ ส่งต่อความมั่นคงถึงลูกหลานในอนาคต

“ผมเป็นลูกครู และเป็นครูมาทั้งชีวิต เข้าใจหัวอกครู ยกย่องเชิดชูครูผู้ประสาทวิชาความรู้ถึงมีวันนี้ได้ ผมขอโอกาสดูแลครูตั้งแต่ก้าวแรกที่เป็นครูจนถึงเกษียณ อยากให้ครูมีความสุขและมั่นคงในชีวิต”

 

ศ.ดร.สุชชัวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กรุงเทพมหานคร ในฐานะหัวหน้าทีมการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดแนวคิดขับเคลื่อนนโยบายดูแลครูแบบครบวงจร กับ“คมชัดลึก”

 

บ้านพักครูอยู่สบาย

‘ครู’ วิชาชีพชั้นสูงมีคณูปการต่อประเทศชาติ ถ้ามีโอกาสจะไม่ทำให้ผิดหวัง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมดูแลครูผ่านนโยบายการศึกษาที่นำเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตฟรี จะลดภาระเอกสารครูผ่านระบบออนไลน์

 

"ผมเป็นครูอยู่บ้านเช่ามาก่อน ผมรู้ว่าครูลำบากมาก ยิ่งครูที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ต้องมาทำงานในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ ลำพังค่าเช่ากับเงินเดือน แทบไม่เพียงพอดูแลครอบครัว ผมอยากทำบ้านพักครู งานถนัดของผมในฐานะวิศวกร บ้านพักครูผมรู้ว่าต้องสร้างแบบไหนให้ได้คุณภาพดีอยู่สบายราคาไม่แพง ผมอยากทำมาก"

 

ธนาคารครูเพื่อครู-อาจารย์

ตลอดเวลาที่เดินลุยพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง2566 ยิ่งเดิน ยิ่งเห็นปัญหา และเข้าใจครูและลูกหลานคนไทย นอกจากบ้านพักครูแล้ว หากมีโอกาสพร้อมขับเคลื่อน “ธนาคารครู” เพื่อครู-อาจารย์ในสถานศึกษาทุกระดับ ทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย

ศ.ดร.สุชชัวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

 

"ผมเป็นอธิการบดีมาหลายสมัย เป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) เห็นตัวเลขงบประมาณแต่ละมหาวิทยาลัย และรายได้แล้วเศร้าใจ ปัจจุบันต้องยอมรับความจริงกันว่าสถานะอาจารย์มหาวิทยาลัยไม่มีความมั่นคง เสี่ยงถูกเลิกจ้างได้ง่ายๆ  อีกทั้งค่าตอบแทนและรายได้ไม่สะท้อนค่าครองชีพ การมีธนาคารครู จะช่วยให้ครู-อาจารย์ ทำประกันชีวิตดอกเบี้ยต่ำได้ ส่งต่อความมั่นคงถึงลูกหลานในอนาคตได้ "

ศ.ดร.สุชชัวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

การศึกษาดีเปลี่ยนชีวิต

งานด้านการศึกษา-สิ่งแวดล้อม เป็นงานถนัด ขอให้มีโอกาสทำเพื่อแผ่นดิน สองเรื่องนี้ไม่แพ้ใคร ปชป.เดินหน้ามาไกลทั้งภาษาโค้ดดิ้ง Coding สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมานับหนึ่ง เพราะคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ นำร่องไปแล้ว รวมทั้งหลักสูตรชลกร มาตรฐานสากล ที่ปั้นเยาวชนไทยให้เชี่ยวชาญการบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก

 

นโยบายการศึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งใจทำการเมืองสร้างสรรค์ คิดรอบคอบ เด็กและเยาวชนต้องได้เรียนฟรีตั้งแต่ระดับอนุบาล-ปริญญาตรี ใช้งบประมาณไม่ถึง 30,000 ล้านบาท หากไม่ทำประเทศไทยจะแข่งขันกับชาติอื่นได้ยาก อย่าลืมว่า ไทยเหลือเด็กเพียง 300,000 คนต่อปีเท่านั้นที่จะเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีได้ ถือว่าน้อยมาก

 

สหรัฐอเมริกามีมหาวิทยาลัยอยู่ทุกรัฐ ขณะที่ประเทศในกลุ่มอาเซียน มีเด็กและเยาวชนเข้าสู่ระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจำนวนมากกว่าไทย เช่น อินโดนีเซียจำนวน 5-7 ล้านคนต่อปี เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่มีอยู่จำนวนมากถึง 5,000 แห่ง, มาเลเซียมีมหาวิทยาลัย 600 แห่ง ส่วนไทยมีมหาวิทยาลัย 200 แห่ง ถือว่าน้อยมาก และภาคใต้หลายจังหวัดไม่มีมหาวิทยาลัย เช่น กระบี่ และพังงา

 

“เรียนฟรีตั้งแต่อนุบาล-ปริญญาตรี นี่คือจุดเปลี่ยนประเทศ ถ้าการศึกษาดีจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้หมด แก้ปัญหาเศรษฐกิจปัญหาปากท้องก็จะหมดไป นี่คือจุดอ่อนประเทศไทย หากไม่แก้ปัญหาการศึกษาปัญหาเหล่านี้จะคงอยู่ต่อไป”

 

50% เด็กไทยได้เรียนปริญญาตรี

ปัจจุบันมีเด็กไทยเพียง 30% ได้โอกาสเรียนหนังสือถึงระดับปริญญาตรี ในแต่ละปีการศึกษา ขณะที่ประเทศมาเลเซียเข้าเรียนปริญญาตรี 70% และสิงคโปร์เรียนปริญญาตรีครบ 100%  

 

แต่ภายใน 4 ปีนโยบายการศึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะให้เด็กไทย ที่หลุดจากระบบการศึกษาตอนจบม.3 เพราะความยากจนมากที่สุด ได้ มีโอกาสเรียนต่อระดับปริญญาตรี ถึง 50% เชื่อว่าจะสร้างแรงจูงใจให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ส่งลูกเรียนจนถึงปริญญาตรี เพราะจะได้ถึง 3 เด้ง

 

3 เด้ง มีอะไรบ้าง

  1. เรียนปริญาตรีฟรี
  2. ได้เงินระหว่างเรียน ทำงานด้วย เอกชนที่จ้างเด็กนำมาลดหย่อยภาษี จะเกิดการจ้างงาน 1 ล้านอัตราต่อปี รวม ปวช.-ปวส.-ป.ตรี
  3. กยศ.ให้กู้ค่ากินอยู่จากเดิม 3,000 บาทต่อเดือนไม่พอเพียง จะเพิ่มเป็น 6,000 บาทต่อเดือน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล คำนวณแล้วค่าเล่าเรียนปริญญาตรี ไม่ถึง 30,000 ล้านบาท ครบทุกสาขาวิชา

 

รร.ขนาดเล็ก ยิ่งเล็กยิ่งดี

ไม่ยุบโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนยิ่งเล็กยิ่งดี อยู่ในชุมชน เมื่อมีอินเตอร์เน็ตฟรี รร.ขนาดเล็กอยู่ได้ไม่ต้องยุบรวม การยุบรวมเป็นแนวคิดที่ตื้นมาก โรงเรียนที่ดีต้องอยู่ใกล้บ้านเด็ก ใกล้บ้านพักครู ได้เรียนออนไลน์ กระจายโอกาสให้เด็กไทยเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ

 

หนุนท้องถิ่นร่วมจัดการศึกษา

พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่ชัดเจน หนุนกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นที่มีความพร้อมร่วมจัดการศึกษา  ท้องถิ่นไหนพร้อมดูแลการศึกษาแบบเบ็ตเสร็จทำได้ทันที ท้องถิ่นเขารู้ว่าเด็กคนไหนเป็นอย่างไร เขารู้ปัญหาดีกว่าและสามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วกว่าส่วนกลาง

 

ขณะที่องค์กรที่อยู่ส่วนกลางจัดทำมาตรฐานกลาง ไม่ใช่ปล่อยให้สถานศึกษาหรือโรงเรียนตกมาตรฐาน มีการสอบวัดเกณฑ์มาตรฐานเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชน เกิดการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาเด็กไทยในแต่ละพื้นที่ให้ทัดเทียมนานาชาติ

พรรคประชาธิปัตย์ ชู จังหวัดสงขลา มหานคร 4 ทันสมัย สู้ศึกเลือกตั้ง2566

 

ชู สงขลา มหานคร 4 ทันสมัย

นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสงขลา คือ เมืองเศรษฐกิจพิเศษ ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก พร้อมผลักดันให้สงขลาก้าวสู่“ มหานคร 4 ทันสมัย” ได้แก่

 

1. เมืองการศึกษาทันสมัย

 ยกระดับมหาวิทยาลัย สู่ระดับอาเซียน ผลักดันให้ทุกมหาวิทยาลัยในสงขลา ได้รับการสนับสนุนเต็มที่ไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้าน นโยบาย พรรคประชาธิปัตย์ “เรียนปริญญาตรีฟรี” ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจังหวัดในประเทศของเราเอง ผลิตคนทักษะสูง เพื่อมีรายได้ดีจำนวนมากให้ประเทศไทย

 

2. เมืองการแพทย์ทันสมัย

 ต้องยกระดับโรงพยาบาลท้องถิ่น เป็นโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะทาง ศูนย์กลางการแพทย์อีกแห่งของอาเซียน นักท่องเที่ยว นักลงทุน ทุกคนก็อยากมาใช้บริการ นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ “ตรวจฟรี รักษาฟรี บัตรประชาชนใบเดียว” ทุกที่ ทุกเวลา รักษาตรวจรักษาฟรี พี่น้องประชาชนจะไม่มาแออัดรักษาโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ

 

3. เมืองสาธารณูปโภคทันสมัย

 เริ่มจาก อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ฟรี ทั่วสงขลาด้วยนโนบายพรรคประชาธิปัตย์ “อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทั่วประเทศ” และพี่น้องประชาชนยังต้องมีการเดินทางที่สะดวก มอเตอร์เวย์ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และรถไฟทางคู่ ไทย-มาเลย์ เพื่อยกระดับโลจิสติกส์ รับนักท่องเที่ยว จากกัวลาลัมเปอร์ หนุนการสร้าง Monorail ในหาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาจราจร และมีท่าเรือมาตรฐานอาเซียน“สงขลา ต้องเป็นศูนย์การคมนาคมภาคใต้”

 

4. เมืองเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ทันสมัย

ทั้งอุตสาหกรรมยางพาราแปรรูป ต้องเป็นเมือง “Rubber city” เนื่องด้วยยางพาราเป็นวัสดุด้านเคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง จนถึง ส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องมือแพทย์มูลค่าสูง สร้างรายได้เพิ่มมหาศาล ผลักดันให้เกิดขึ้นที่สงขลา และยกระดับศูนย์กลางการลงทุน เป็นเมืองเศรษฐกิจใหม่ ดึงดูดนักลงทุน การเป็นเมืองหน้าด่าน ลดภาษี ให้นักลงทุน สอดรับ กับยุทธศาสตร์ “การสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”

ดร.เอ้ สุชัชวัร์ ฟังเสียงประชาชน

 

สรุปให้ นโยบายการศึกษา ของพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 ในศึกเลือกตั้ง 2566 ประกาศพร้อมจะดูแลทั้งด้านการศึกษา-ด้านสุขภาพ-ด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่เมื่อเด็กแรกเข้าเรียน จนสำเร็จการศึกษา เรียนจบมีงานทำ มีหลักประกันอาชีพ มีบ้านพักครูราคาถูก อยู่สบาย มีธนาคารครูเสริมความมั่นคงให้ครู-อาจารย์ ส่งต่อความมั่นคงยั่งยืนถึงรุ่นลูกหลานในอนาคต

 

อย่าลืมวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00น.คนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศรวม 52,241,808 คน สามารรถเลือกพรรคที่ชอบ นักการมืองที่ใช่ได้ตามสิทธิอย่างเสรี 

 

โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แยกเป็น บัตรเลือกตั้งสีม่วงเลือก สส.แบบแบ่งเขต เลือกนักการเมืองที่รักที่ชอบ  ส่วนบัตรเลือกตั้งสีเขียวเลือก สส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ หรือหมายเลข หรือเบอร์พรรคการเมือง ตามที่ชอบได้เต็มที่ 4 ปีมีครั้งอย่านอนหลับทับสิทธินะขอบอกๆๆ

 

...กมลทิพย์ ใบเงิน..เรียบเรียง