“นายกรัฐมนตรี” แย้มข่าวดี “วันเด็ก” ไทยก้าวสู่ “Thailand Zero Dropout”
"นายกรัฐมนตรี" แย้ม “วันเด็ก” มีข่าวดี ก้าวสำคัญ ไทยก้าวสู่ “Thailand Zero Dropout” เด็กไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติทุกคน ต้องได้รับการศึกษาเท่าเทียม ต้องได้เรียนทุกคน ลดเหลื่อมล้ำการศึกษา เตรียมแถลงเด็กหลุดจากระบบการศึกษา ครั้งแรก วันเสาร์ 13 ม.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.39 น. วันที่ 10 ม.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ X Srettha Thavisin ระบุว่า เด็ก ซึ่งเป็นอนาคตของชาติทุกคน ต้องได้เรียนครับ
ผมขับเคลื่อน เรื่องลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยตัวเอง มาตั้งแต่ก่อนเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ หลายปีแล้วครับ เพราะผมปรารถนาที่จะเห็นเด็กไทยได้รับความเท่าเทียมในเรื่องนี้ โดยตั้งเป้าให้จำนวนเด็กที่ต้องหลุดระบบการศึกษาเป็น “ศูนย์” ครับ
ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง ผมได้สั่งการทันทีให้ “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” (กสศ.) DES และกระทรวงมหาดไทย บูรณาการรวบรวมข้อมูลนักเรียนที่หลุดจากระบบการศึกษา ให้เป็นฐานข้อมูล Big Data ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ต้องออกจากการศึกษากลางคัน ซึ่งในวันเสาร์ที่ 13 ม.ค.นี้ จะมีข่าวดี ที่จะเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งที่ประเทศไทยก้าวไปสู่ Thailand Zero Dropout ครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” (กสศ.) DES เมื่อปี 2566 โดย ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. ระบุว่า ปีการศึกษา 2566 ประเทศไทยมีจำนวนนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษราว 1.8 ล้านคน โดย กสศ. สนับสนุนทุนเสมอภาคให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษ หรือยากจนระดับรุนแรง (Extremely Poor) จำนวน 1,248,861 คน เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ตัวเลขยังไม่แตะหลักล้านคือ 994,428 คน เด็กกลุ่มนี้ แม้จะมีนโยบายเรียนฟรี 15 ปี
ทั้งนี้ รายงานข่าวจาก กสศ. เมื่อเวลา 15.22 น.ของวันนี้(10 ม.ค.2567) แจ้งว่า "วันเด็ก" วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 นี้ นายกรัฐมนตรี จะแถลงข่าวเปิดเผยตัวเลขเด็กไทยหลุดจากระบบการศึกษาเป็นครั้งแรก จากความร่วมมือของหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงาน