'โอ๊ต-ปราโมทย์' โสดสนิท ลุยงานสร้างบ้านพักตากอากาศ | คมชัดลึก

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เรียกว่าคิวงานฮอตไม่แพ้ซุปตาร์ สำหรับ "โอ๊ต" ปราโมทย์ ทั้งอีเว้นท์ คอนเสิร์ต พิธีกร ดีเจ ทำงานหนักขนาดนี้ มาร่วมงานประกาศรางวัล KAZZ AWARDS ทั้งที ก็ต้องถามซะหน่อยว่านำเงินไปทำอะไร พร้อมอัพเดทหัวใจหลังโสดมาพักใหญ่

ช่วงนี้ออกงานบ่อย ไม่มีวันว่างเลย?
   “จริงๆ ไม่มีวันว่างมาจะ 2 ปีแล้ว คือเป็นคนบ้างานครับ อยากทำงานเยอะๆ เพราะว่าภาระเยอะครับ ตอนนี้ลูกน้องเยอะด้วยเวลาเราจะพักเราก็จะนึกถึงภาระไว้ครับ เราจะได้รู้สึกว่าอยากทำงาน”
เราร้อนเงิน?
   “ครับ ไปซื้อบ้านริมทะเลที่ชะอำไว้หลังนึงด้วย ก็อยากจะสร้างให้เสร็จ ตอนรีไทด์เราก็อยากจะไปอยู่ริมทะเลบ้าง ไปอยู่เชียงใหม่บ้าง ชอบภูเขา ชอบทะเลครับ”
บ้านริมทะเลสร้างใหม่เลย?
   “สร้างใหม่ครับ พอดีรุ่นพี่ที่เขาทำเขาชวนไปอยู่ด้วยครับ แล้วหาดมันค่อนข้างจะไพรเวทมาก เราอยากอยู่เงียบๆ ผมเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวาย”
แพงไหม?
   “ไม่แพงมากครับ ยังสู้ไหวครับ (ยิ้ม)​”
คิดไว้ว่าถ้าพอกับงานวงการจะไปอยู่ต่างจังหวัดเลย?
   “ใช่ครับ อยากพักผ่อน อยากเที่ยว​ครับ จริงๆ วางแผนไว้ว่าอีกสัก 4-5 ปีก็คงจะเริ่มรีไทด์ตัวเองให้ลูกน้องดูแลบริษัทแล้ว คืออาจจะถอยตัวเองไปเป็นคลิเอเตอร์มากขึ้น เป็นคนทำคอนเท้นท์มากขึ้น ไม่ได้มาออกหน้าเองแล้ว” 

คือเราเหนื่อยหรือเบื่อแล้ว?
   “ผมว่ามันเป็นอนิจจังครับ มันไม่มีทางที่คนนึงจะมีชื่อเสียงจีรังยั่งยืนไป 10-20 ปี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมองในอนาคต คือเด็กรุ่นใหม่เกิดขึ้นทุกวันครับ ฉะนั้นเราก็จะต้องเตรียมตัว ตอนนี้เรายังเหนื่อย เรายังกอบโกยได้ก็กอบโกยให้เต็มที่ ในวันที่ชื่อเสียงเราลดลงไปแล้ว เราก็ถอยให้เด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาบ้าง จากที่เป็นคนรับอย่างเดียวก็กลายเป็นคนให้บ้าง”
เห็นล่าสุดเข้าวัด?
   “ไปถ่ายรายการแล้วเขาห้ามพูดคำหยาบในวัดไง อีดอัดมากครับ พูดคำหยาบ 1 คำต้องนั่งสมาธิ 1 นาที โอ้โห โดนไปเกือบชั่วโมง แต่ก็ดีนะครับ ผมเป็นคนชอบเข้าวัดเข้าวา”
ได้เอามาใช้ในชีวิตไหม ลดการพูดคำหยาบ?
   “เวลาผมอยู่กับแม่กับครอบครัว ผมไม่พูดคำหยาบเลยนะ เพราะแม่ดุมาก ก็เลยจะไม่ค่อยพูดคำหยาบก็จะพูดเฉพาะเวลาทำรายการหรือว่าอยู่กับเพื่อนมากกว่า”
นั่งสมาธิบ่อยไหม?
   “จริงๆ ก็ไม่บ่อยหรอก เราเป็นคนอ้วน นั่งปวดเข่ามาก ไม่ควรจะไปนั่งแบบนั้นนานๆ ปวดร้าวไปหมด เราเป็นคนอ้วน ไม่ควรนั่งแบบนั้นนานๆ (หัวเราะ)​”
แสดงว่าไม่ใช่ทาง?
   “โชคดีว่าเราบวชเณรแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าการนั่งสมาธิหรือการเข้าวัดเป็นเรื่องปกติสำหรับเราอยู่แล้วครับ” 

หัวใจเป็นยังไง?
   “ว่างมากเลยครับ หาแฟนให้หน่อยสิครับ มีแต่คนกลัวโอ๊ต ปราโมทย์กันหมดแล้ว ไม่รู้จะจีบใครด้วย คนก็ไม่กล้าคุยกับผม แล้วที่สำคัญคือทำงานทุกวันเลย ฉะนั้นก็เลยไม่มีเวลาไปให้คนอื่นด้วย”
คือภาพลักษณ์เราเจ้าชู้?
   “เรื่องภาพลักษณ์ก็ด้วย เพราะภาพลักษณ์เราก็ไม่ได้ดีอยู่แล้ว คนที่จะเข้ามาเขาก็ต้องเข้าใจในความเป็นเราด้วย ผมก็ชัดเจน ทุกคนก็เห็นภาพตัวผมอยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องยอมรับ สิ่งที่ทำได้ก็คือเราก็ต้องรอคนที่เขาเข้าใจจริงๆ”
แล้วอยากมีแฟนไหม?
   “อยากมีครับ อยากมีลูกด้วย อยากมีครอบครัวด้วย ไม่งั้นสิ่งที่เราทำมาทุกวันนี้เราจะทำไปให้ใคร”

ได้ไปจีบใครบ้างไหม?
   “คือด้วยรูปร่างหน้าตาเรามันเป็น loser อยู่แล้ว อ้วนเตี้ยตัวล่ำตัวตันอยู่แล้ว”
แต่รวยนะ?
   “ไม่หรอก ถ้ารวยต้องเลิกทำงาน คนที่ยังไม่รวยคือคนทำงาน” 
ตอนนี้โสดสนิท?
   “โสดครับ ยังไม่มีใครเลย อยากมีเหมือนกันครับ แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ มันเป็นอาฟเตอร์ช็อค พอมาอยู่คนเดียวจริงๆ แล้วพอมันเหนื่อยมากๆ มันก็อยากจะระบายบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร ผมก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย”
แสดงว่าตอนนี้จะหาคนที่ใช่น่าจะยาก?
   “ยากครับ ผมกล้าพูดเลยว่ายาก เพราะทุกคนก็คงมองเราเป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนกะล่อน ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่คนมอง แล้วก็รอแค่วันนึงคนที่เข้าใจจริงๆ ว่าเราเป็นแบบนี้ เขารับในสิ่งที่เราเป็นได้จริงๆ แต่ผมเป็นคนที่ถ้ารักใครผมก็รักจริงนะ ถ้าไม่รักจริงไม่อยู่มาเป็น 10 ปีหรอก แต่พอมันมีเหตุการณ์ก็ต้องปล่อยมันไป สิ่งที่ทำได้ก็คือทำงาน ตอนนี้ผมก็เลยบ้างาน มีงานเท่าไหร่ผมก็รับได้หมด และพยายามซื้ออสังหาริมทรัพย์เอาไว้ ซื้อบ้าน ซื้อที่ ซื้อนาฬิกา ซื้ออะไรที่เราชอบ ตอนนี้เราโสดเราก็ใช้ชีวิตตัวเองให้เต็มที่ ซื้อสิ่งที่เราอยากได้ให้เต็มที่ เพราะในวันนึงที่เรามีแฟนแล้วหรือมีคู่ครองแล้ว เราก็จะได้พอ”