บันเทิง

'ท็อป'ลั่นยังสร้างหนังเด็กแม้ไม่ทำเงิน

'ท็อป'ลั่นยังสร้างหนังเด็กแม้ไม่ทำเงิน

28 ส.ค. 2562

"ท็อป" บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ทำใจหากหนังไม่ทำเงิน เชื่อหนังดูสนุกมีข้อคิด  ลั่นหากกระแสหนัง "ฮักบี้ บ้านบาก" ดี มีภาคต่อแน่นอน 

         บันเทิง คมชัดลึก - เรียกว่าสร้างภาพยนตร์ที่มีเด็กแสดงนำออกมาให้แฟนๆ ได้ยลกันไม่ขาดแม้หนังจะไม่ทำรายได้สักเท่าไหร่ ล่าสุดได้สร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ “ฮักบี้บ้านบาก” งานนี้นอกจากจะใช้นักแสดงใหม่แกะกล่องเหมือนเดิมแถมยังเป็นนักกีฬาตัวจริง ได้พูดคุยกับ  “ท็อป" บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ที่สยามพารากอนได้ความว่า 

 

\'ท็อป\'ลั่นยังสร้างหนังเด็กแม้ไม่ทำเงิน

 

         "ผมว่าหนังเรื่องนี้จะดูสนุกกว่า "ปัญญาเรณู" เพราะมันเป็นหนังที่เกิดจากเค้าโครงเรื่องจริงและเป็นหนังที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนได้ และน้องๆ  ในเรื่องก็เป็นนักกีฬาจริงๆ ของบ้านบาก คือผมไม่อยากให้เหตุการณ์นี้มันหายไปกับอากาศ หนังมันสร้างขึ้นมา มันจะเป็นประวัติศาสตร์ให้ทุกคนได้คิดถึงว่าบ้านบากเคยสร้างตำนานไว้ ทำให้ตอนนี้มีทีมรักบี้ที่ภาคอีสานเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 กว่าทีม ตอนนี้มี 70 กว่าทีมแล้ว ทำให้กีฬาประเภทนี้ตื่นตัวทำให้เด็กๆ มาเล่นกีฬากันมากขึ้น ก็อยากจะฝากไว้เพราะกีฬารักบี้เป็นกีฬาที่เงียบมาก ไปชิงแชมป์ที่ต่างประเทศก็ไม่ได้มีการเสนอข่าว คือผมอยากจะบอกว่ากีฬาชนิดนี้สนุกมากถ้าดูเป็น และหนังเรื่องนี้จะบอกว่าเล่นอย่างไร คุณดูอย่างไร แล้วจะทราบว่ากีฬารักบี้เป็นกีฬาสุดยอดของลูกผู้ชายจริงๆ

           ถามว่าพอมีเค้าโครงจากเรื่องจริงมันยากขึ้นไหม คือมันก็มีข้อจำกัด เพราะเราไม่สามารถนำเสนอเรื่องจริงได้ทั้งหมด แต่หากเรามองในอีกแง่หนึ่ง คือเราสามารถใส่อะไรลงไปเพื่อความเหมาะสม เพื่อให้หนังมันสนุกขึ้นได้ ถ้าเราใส่เรื่องจริงทั้งหมดมันคงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก เพราะมันเป็นหนังกีฬา แต่เรื่องราวมันไม่ใช่แค่กีฬาแต่มันคือเรื่องของน้องๆ ทุกคน มันเป็นชีวิตของพวกเขา ถ้าได้ดูจะรู้สึกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ใช่หนังกีฬา มันจะดูสนุกกว่าหนังกีฬามาก ส่วนสาเหตุที่นำนักกีฬามาเป็นนักแสดงนำ เพราะผมคิดว่าถ้าผมจะต้องไปแคสนักแสดงที่แสดงเก่งมากมา แต่เขาไม่สามารถแสดงการเล่นรักบี้ที่เป็นธรรมชาติได้ ผมก็เลยคิดว่าเอานักกีฬารักบี้มาเป็นนักแสดงน่าจะง่ายกว่า ผมคิดอย่างนั้น และมันจะได้อะไรที่เหมือนจริงมาก เพราะเป็นนักกีฬาจริงและทุกคนเป็นเด็กบ้านบากทั้งหมด

 

\'ท็อป\'ลั่นยังสร้างหนังเด็กแม้ไม่ทำเงิน

(เหล่านักแสดงในภาพยนตร์)

         เมื่อถามต่อว่า เหตุใดถึงชอบทำหนังเด็ก ทั้งๆที่ผ่านมาหนังาขาดทุนตลอด ซึ่งผู้กำกับคนดังกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

          "ผมอยากบอกว่าหนังเด็กแม้จะมีคนดูแค่กลุ่มเล็กๆ แต่ถ้าผมรู้สึกสุขใจ มันจะขาดทุนสักล้านสองล้านก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่ผมนำเสนอให้แก่สังคม ให้แก่น้องๆ กลุ่มนี้มีการไปต่อ เรียกว่าออกจากบ้านบากไปทุกที่ต้อนรับ ่เพราะฉะนั้นเขาต่อยอดได้หมด ผมไม่ได้หวังว่าหนังเรื่องนี้จะต้องได้เงินทองมากมาย ผมหวังแค่ว่าที่ตรงนี้เขาจะยืนได้ตลอดไป (กลายเป็นลายเส้นว่าต้องเป็นหนังเด็ก) ผมชอบความเป็นธรรมชาติของเด็ก ถ้าเอานักแสดงที่เป็นนักแสดงจริงๆ มาถ่ายทำก็เป็นแค่หนังเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเอาเด็กที่ไม่เคยแสดงมาก่อน แล้วมาทำ มันมีความสุขมากกว่าที่จะเอานักแสดงจริงๆ มาเล่น

 

\'ท็อป\'ลั่นยังสร้างหนังเด็กแม้ไม่ทำเงิน

("ไทด์" เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และ คุณแม่)

 

            เรื่องรายได้ไม่คาดหวังเลย ก่อนหนังฉายทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าเจ๊ง ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เจ๊ง ผมก็ยอมรับ แต่ถ้ามันไม่เจ๊งผมอาจจะทำภาค 2  เพราะมันจะมีเรื่องราวเข้มข้นกว่าภาคแรก เพราะมันจะมีนักกีฬาที่ออกไปจากบ้านบากไปอยุ่ตามโรงเรียนต่างๆ แล้วต้องมาแข่งกับบ้านบาก มันก็จะมีเรื่องราวดราม่า สนุกสนานเข้มข้น แต่ถ้ามันไม่ดีก็จบตรงนี้  (ฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อย) ผมต้องขอฝากภาพยนตร์เรื่อง ฮักบี้บ้านบาก เป็นกำลังใจให้น้องๆ เป็นกำลังใจให้ผม ให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังกีฬาเรื่องแรก ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไร ผมก็อยากให้พวกเขาได้ไปต่อ ให้พวกเขาประสบความสำเร็จ  ถ้าดูหนังพวกเขาแล้วชอบผมยินดี ก็ขอฝากด้วย เป็นกำลังใจให้น้อง เป็นกำลังใจให้ผม หนังฉาย 29 ส.ค. นี้ฝากด้วย"  

 

\'ท็อป\'ลั่นยังสร้างหนังเด็กแม้ไม่ทำเงิน

(“ท็อป" บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ )