ปีของ บิณฑ์ พระเอกรุ่นใหญ่ใจอาสา
ปีของ บิณฑ์ พระเอกรุ่นใหญ่ใจอาสา คอลัมน์... มายาประเทศ โดย.. นิตี้ fb/nitylive
ก้าวสู่พุทธศักราชใหม่ 2563 ขอให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ ขอส่งท้ายปีเก่ากับเรื่องราวของ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ที่ได้รับฉายา “กู้ภัยใจพระ” จากสมาคมนักข่าวบันเทิงประจำปี 2562
ที่ต้องพูดถึง “บิณฑ์” เพราะโดดเด่นจากบทบาทในการระดมเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมใหญ่ที่อุบลราชธานี มากกว่า 400 ล้าน ซึ่งทำไมคนถึง “เชื่อใจ” โอนเงินเข้าบัญชีมากมายขนาดนั้น นั่นเพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่กูภัย มีตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู
แต่กว่าที่ดารารุ่นใหญ่จะมาถึงจุดนี้ “บิณฑ์” วัย 57 ปี ผ่านผลงานการแสดงในวงการบันเทิงนาน 3 ทศวรรษ ซึ่งน่าสนใจว่าชีวิตเด็กหนุ่มจากสระแก้ว เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการถ่ายแบบและแสดงเป็นตัวประกอบหนัง ไต่ฝันจนได้รับบทนำจาก “ตำรวจเหล็ก” แต่ที่สร้างชื่อคนรู้จักระดับประเทศจากละครโทรทัศน์เรื่อง “แผลเก่า” ทางช่อง 7 เมื่อปี 2531 และเล่นละครต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง
แน่นอนว่า ชีวิตนักแสดงเมื่อถึงวัยเข้าเลขสี่ จากบทบาทความเป็น “พระเอก” ก็คงหลงเหลือไว้เพียงตำนานเพราะคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ หากแต่ความสามารถและการสั่งสมประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์มายาวนาน บิณฑ์กลับมาโด่งดังอีกครั้งในบท “อ้ายทองเหม็น” จากภาพยนตร์เรื่องบางระจัน ปี 2544 โดนใจกรรมการคว้าได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วยตามมาด้วยหนังอีกหลายเรื่อง
ทว่าการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “บิณฑ์” จากดารารุ่นใหญ่ลุกขึ้นมาทำหนัง “ปัญญา เรณู” ปี 2554 ถือว่าประสบความสำเร็จมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สามารถหาทุนทำหนังต่ออีก 2 ภาคด้วยกัน และทำหนังออกมาประมาณปีละเรื่อง ได้แก่ กรรไกร ไข่ ผ้าไหม, กระสือครึ่งคน, ทองดีฟันขาว และฮักบี้ บ้านบาก
แม้ว่าหนังเรื่องหลังๆ ต่อจาก “ปัญญา เรณู” จะไม่เปรี้ยงปร้างนัก แต่ด้วย “บิณฑ์” มีภารกิจหลักคือการเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือคน มีข่าวคราวเป็นระยะ ทำให้ผู้กำกับหนังรายนี้ยังอยู่ในกระแสความสนใจของผู้คนสม่ำเสมอ
อาจไม่เห็น “บิณฑ์” ในสื่อเก่า อย่างจอทีวีบ่อยนัก แต่บนสื่อสมัยใหม่ในโซเชียลมีเดียนั้น เรื่องราวของเขากลับถูกกล่าวขานทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จัก ซึ่งอีกไม่กี่ปี “พี่บิณฑ์” จะครบแซยิดแล้ว เชื่อว่าจะคงมีแรงกำลังกายและกำลังใจ สร้างสรรค์ผลงานด้านภาพยนตร์และช่วยเหลือผู้คนต่อไป..ขอให้กำลังใจคร้าบ!!