'เจ้านาย' รับมีสาวคุย แต่ไม่ใช่คนพิเศษ
"เจ้านาย" จินเจษฎ์ วรรธนะสิน เผยเรียนปี 1 ที่อังกฤษหนักกว่าเดิม แต่สู้ แย้มมีสาวคุยด้วย แต่สถานะแค่เพื่อน บอกตอนนี้ต้องเข้ามาช่วยคุณพ่อ "เจ" เจตริน ดูแลค่ายเพลง
ทีมบันเทิง คมชัดลึก-บินกลับมาไทย หนุ่มวัยใส "เจ้านาย" จินเจษฎ์ ลูกชายของ "เจ" เจตริน กับ "ปิ่น" เก็จมณี ก็กลับมาลุยงานเพลงทันที พร้อมถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงใหม่อย่าง เธอมีเขา นานๆ เจอตัว เลยต้องอัปเดตชีวิตในต่างแดน พร้อมสถานะหัวใจตอนนี้โสดหรือมีคนคุย
ตอนนี้ก็ยังใช้ชีวิตไปมาอังกฤษ
“เหมือนเดิมครับ ตอนนี้ก็เรียนอยู่ที่อังกฤษ ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เหนื่อยครับ สู้ครับ”
เพิ่งเรียนจบม.ปลายไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เป็นเฟรชชี่แล้ว
“ครับ พึ่งขึ้นปี1 ด้วยความที่เรียนดนตรีแล้วก็มีว่าพึ่งเจอเพื่อนใหม่ ก็ออกไปสังสรรค์อะไรกับเขาบ้าง” (ยิ้ม)
การเรียนมันต้องหนักกว่าเดิมไหม
“มันก็หนักครับเชื่อว่าทุกวิชามันก็หนักหมด แต่ว่าด้วยความที่เราชอบก็สนุกสนาน”
ความรู้สึกของตัวเองเรารู้สึกโตขึ้นไหม
“ก็รู้สึกว่าคิดอะไรมากขึ้นครับ ก็คิดก่อนทำ ส่วนใหญ่จะคิดก่อนทำมากขึ้นครับ เรื่องเวลาก็เมเนจเองด้วยครับ ด้วยความที่อยู่ที่นู้นคนเดียว เรื่องเรียนก็หนักขึ้นครับ”
แล้วต้องเมเนจเวลากลับมาทำงานที่ไทยมากขึ้นด้วยหรือเปล่า
“มันมีช่วงให้กลับอยู่แล้วครับ ก็อีสเตอร์ ,ซัมเมอร์ , คริสต์มาสก็กลับเป็นช่วงๆ แล้วก็ทำงานและร้องเพลงไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่ทิ้งงานทางนี้ครับ ผมก็อยู่อย่างนี้” (หัวเราะ)
ตั้งใจจบตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ไหม
“ใช่ครับ ตอนนี้ก็ตั้งเป้าไว้ว่าจบปริญญาตรีเป็นทำมิวสิคโปรดักชั่นครับ”
จบแล้วมาดูค่ายเพลง
“ก็น่าจะดูก่อนว่าตอนนั้นตัวเองเป็นยังไงบ้างครับ”
พ่อมองภาพรวมแล้ว ตัว “เจ้านาย” เองตอนนี้ช่วยยังไงในค่าย
“ตอนนี้ก็มีทีมศิลปินใหม่ๆเข้ามา ก็เพื่อนๆก็น่าจะเป็นชื่อที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วบ้าง แล้วก็มีคนที่เป็นใหม่ๆครับ ก็อยากให้ติดตามดู”
แล้วได้มีการลงไปช่วยคุณพ่อยังไงบ้าง
“นายจะดูฟังเพลงแล้วก็ลุคอะไรแบบนี้ ที่อยากจะเสนอออกไป ก็พยายามเซ็ทให้มันนิ่งอยู่ครับตอนนี้”
เหมือนคุณพ่อก็เปิดโอกาสให้เรามามีส่วนร่วมกับบริษัทมากขึ้น
“ใช่ครับ เพราะที่คุยตั้งแต่แรกว่าจะมีค่ายเป็นของตัวเอง ก็อยากจะทำอะไรที่มีฟรีๆ โดยไม่ต้องมีแบบ ไม่ต้องมีจำกัดเรื่องสัญญาที่ต้องเครียดหรืออะไรแบบนี้ครับเพราะว่าค่ายเราก็เป็นค่ายนักดนตรีที่แบบใจดี ไม่ได้ห่วงไม่ได้อะไร ก็ลองเสนอไปว่าค่ายเราใจดีนะครับ”
ตอนนี้เหมือน “เจ้านาย” ค่อนข้างที่จะรับผิดชอบเยอะมากหลายอย่าง
“ก็มีเพิ่มมาเรื่อยๆครับ อย่างนี่ก็ถ่ายซีรี่ย์ Bad Genius (ฉลาดเกมส์โกง) ก็น่าจะได้ดูในเร็วๆนี้”
กลัวมันจะมีผลกระทบการเรื่องที่อังกฤษไหม
“ไม่น่าจะมีผลกระทบครับ เพราะว่าด้วยความที่มันมีแบ่งเป็นช่วงๆ อย่างที่บอกก็ได้กลับมาทำงาน แล้วก็ได้กลับไปเรียน มันก็เหมือนเป็นช่วงพักครับ ซึ่งไม่เบียดเวลาเรียนครับ เพราะผมก็ดูหลายๆคน พี่ๆในวงการหลายๆคน เขาก็ยังทำงานได้แล้วก็ยังเรียนได้ ก็ไม่ยาก”
ถามถึงเรื่องสาวๆหน่อย มีไหม
“ก็มีคุยๆธรรมดา ผมว่าทุกคนก็ต้องเจอฟิวส์นี้ครับ”
เป็นเพื่อนๆที่นู้นเหรอ
“ก็มีเพื่อนที่นู้น เพื่อนที่นี่ครับ ก็ต้องมีพี่ก็ต้องมีแต่ว่าก็มีคุยๆพี่ ผมก็ใช่ชีวิตแบบไปเรื่อย ๆปล่อยให้มันเป็นไปมากกว่า”
อย่างคุณพ่อคุณแม่เขามีถามบ้างไหม ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง
“ก็มีครับ แต่ว่าพ่อแม่ไม่ได้ห่วงอะไรใช่ ก็ปล่อย ให้เราไปเผชิญเอง (ปกติเล่าไหม?) เล่าครับ”
เล่าว่าคนนี้พิเศษกว่าคนอื่นเหรอ
“คนนี้คนไหนครับ” (หัวเราะ)
มีพิเศษกว่าคนอื่นๆ นัมเบอร์วันไหม
“ผมก็มีคนเดียว (หัวเราะ) หลอกนะๆหลอกๆ”
คือคุยกันมานานแล้วเหรอ
“ก็เป็นเพื่อนๆกันมากกว่า ก็มีแบบว่าเราก็ไปเรื่อยๆ แต่ว่าถ้ามันเจอแล้วเราก็ปล่อย”
หมายถึงว่าจากเพื่อนขยับมาเป็นคนพิเศษเหรอ
“ไม่รู้ครับ” (หัวเราะ)
แล้วอย่างเพลงที่มันอกหักมันมีมาได้ยังไง
“ก็ประสบการณ์เพื่อนบ้าง แล้วก็เป็นของเราที่เราไปเจอครับ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องเจอ โมเมนต์แบบไปชอบเขา แต่รักไม่ได้อะไรประมาณนี้”
ขอถามเรื่องร้าน “แม่ปิ่น” ที่มีปัญหาหน่อย
“ผมเห็นแล้วครับ แต่ตอนนั้นผมยังอยู่ที่นู้น ก็น่าจะเป็นลูกค้าอยากถ่ายรูปกับป้ายอะไรสักอย่าง แต่ว่าผมไม่แน่ใจดีเทล ก็เหมือนคุณแม่บอกว่าถ้าชนก็มาบอกอะไรประมาณครับ แต่ว่าที่เหลือไม่รู้จริงๆ”
แต่คือในเหตุการณ์คุณแม่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม
“ไม่ได้มีอะไรมากครับ”
ตอนเราทราบข่าวห่วงขนาดไหน
“เท่าที่รู้ตอนนั้นมีคนมาชนป้ายครับ แต่ว่าที่เหลือผมไม่ได้รู้อะไร เพราะว่าแม่ก็ไม่ได้คุยอะไร ก็รู้ว่าเป็นร้านแม่ที่แม่ขายอาหารคลีน”
หลังจากเป็นข่าวไป มีคนติดต่อเข้ามาขอโทษหรือยังไง
“อันนี้ไม่รู้จริงๆ ผมอยากให้ถามแม่มากกว่า”
ยังไม่ได้อัปเดตใช่ไหม
“ยังครับยัง ผมเพิ่งกลับมา 4 วัน ทำงานอย่างเดียวครับ”