ข่าว

ขอบคุณเฟซบุ๊ก แม่-ลูกสาวพบกันอีกครั้งหลังพราก 24 ปี

ขอบคุณเฟซบุ๊ก แม่-ลูกสาวพบกันอีกครั้งหลังพราก 24 ปี

24 ก.ค. 2562

แม่กับลูกสาวชาวเวียดนามได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังพรากจากไร้ข่าวคราว 24 ปี โพสต์เฟซบุ๊กเป็นสื่อ  



เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว  บ้านของนางเหวียน ที เหลียน ในจังหวัดเหงะอัน  ประเทศเวียดนาม บรรยากาศผิดปกติไปจากทุกวัน เพื่อนบ้านหลายคนไปรวมตัวกันด้วยความตื่นเต้น เพื่อร่วมต้อนรับ เล ที หล่าน ลูกสาวของเจ้าของบ้าน ที่ขาดการติดต่อแบบไม่รู้ข่าวคราวเลยเป็นเวลานานถึง 24 ปี  จนหญิงวัย 69 ปี คิดว่าคงไม่เจอหน้าลูกสาวอีกครั้ง  


 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก แม่-ลูกสาวพบกันอีกครั้งหลังพราก 24 ปี

เพื่อนบ้านร่วมยินดี / vietnamnews

 

หลายปีที่ผ่านมา ครอบครัวพยายามติดตาม แต่ไม่เคยได้ข่าว ส่วนพ่อของเธอเสียชีวิตราว 4 ปีหลังลูกสาวหายไป ส่วนหนึ่งเพราะตรอมใจ  
 

หล่าน เป็นพี่สาวคนโตในพี่น้อง 6 คน ครอบครัวฐานะยากจน ในวัย 19 ปี เธอเดินทางไปทำงานในจังหวัดทัญฮว้า ที่อยู่ใกล้เคียง  และถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกไปขาย ให้ชายวัย 65 ปี ในมณฑลกวางสี  เขาซื้อตัวเธอในราคา 7 ล้านด่อง (ราว 9,000 บาทเศษ อัตราค่าเงินปัจจุบัน) 

 

 

 

หล่าน มีลูกสาว 3 คนกับลูกชาย 1 คน ขณะอยู่กิน 13 ปีกับชายคนนี้อย่างทุกข์มาน เธอถูกทุบตีเป็นประจำ เคยพยายามหลบหนีหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ สามีคนแรกจับเธออขังในห้องมืด และให้กินยาบางอย่างจนเธอเริ่มจำอะไรไม่ได้ 


ต่อมา หล่านถูกขายต่อให้กับชายอีกคนหนึ่ง แต่ครั้งนี้ เธอได้รับการปฏิบัติอย่างดี และอยู่กินกับสามีคนที่สอง 11 ปี  
สองปีก่อน เธอขออนุญาตสามีกลับไปเยี่ยมบ้าน สามีให้เงินมาก้อนหนึ่ง แต่เธอถูกหลอกเอาเงินไปจนไม่สามารถกลับเวียดนามได้ 


จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อเธอได้พบกับสตรีเวียดนามจากจังหวัด ฮหว่าบิ่ญ ที่อาศัยในจีน  และช่วยหล่านอัพโหลดคลิปวิดีโอบนเฟซบุ๊ก หวังเป็นสื่อช่วยติดต่อครอบครัวในเวียดนามได้ คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในวงกว้าง จนถึงน้องสะใภ้ของเธอ Đặng Thị Thảo 


แม้ว่าหล่านพูดเวียดนามไม่คล่อง แต่จำชื่อของพ่อแม่และบ้านเกิดได้ 


น้องสะใภ้กล่าวว่า ตอนแรก จำหล่านไม่ได้ แต่เมื่อได้ยินเธอบอกที่อยู่ ชื่อพ่อแม่ น้องชายและน้องสาว จึงรู้ว่านั่นคือพี่ของสามีเธอ ครอบครัวจึงติดต่อไปยังหล่าน และพูดคุยช่วยให้เธอรื้อฟื้นความทรงจำ ทั้งยังแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ หวังว่าจะช่วยให้เธอกลับเวียดนามได้โดยเร็วที่สุด  แต่เจ้าหน้าที่ก็มีปัญหาในการสื่อสารกับหล่าน ต้องใช้เวลาประสานระยะหนึ่งจึงเดินทางกลับเวียดนามได้ในที่สุด 


นางเหวียน แม่ของหล่าน กล่าวว่า ครอบครัวขอบคุณสื่อที่ช่วยเผยแพร่ข่าว จนทำให้ได้พบกับลูกสาวอีกครั้ง