ม็อบฮ่องกงเผาสถานีรถไฟใต้ดิน-บุกทุบธุรกิจจีนหลังแบนหน้ากาก
รถไฟใต้ดินฮ่องกงเดี้ยง งดบริการจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง หลังม็อบอาละวาดเผาหลายแห่ง ด้วยความโกรธแค้นหลังแบนหน้าหาก
( คลิปม็อบรุมทำร้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ )
หลังจากที่นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าเขตปกครองพิเศษฮ่องกง งัดกฎหมายอำนาจฉุกเฉินที่ตกทอดจากยุคอาณานิคมมาใช้ออกมาตรการพิเศษห้ามสวมหน้ากากหรือปิดบังใบหน้าในการชุมนุมในที่สาธารณะ มีผลวันนี้ โดยหวังว่าจะช่วยป้องปรามผู้ประท้วงและยุติความไม่สงบต่อต้านรัฐบาลยืดเยื้อมานานหลายเดือน
( ม็อบฮ่องกงบุกร้านเสี่ยวมี่ Liam Stone石立安 )
แต่คำสั่งห้ามที่ออกมาหลังจากความรุนแรงยกระดับเมื่อวันที่ 1 ต.ค. จากเหตุตำรวจยิงกระสุนจริงใส่ผู้ประท้วง กลับเป็นชนวนโกรธแค้นมากขึ้นอีก ชาวฮ่องกงหลายพันออกมาร่วมประท้วงโดยไม่ได้นัดหมายในเวลาไม่นานหลังการประกาศห้ามสวมหน้ากาก ที่จะมีผลบังคับใช้เที่ยงคืน
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ชาวฮ่องกงจำนวนมากเลิกงานมาร่วมประท้วงทันที บางส่วนปิดถนน เผาธงชาติจีนและบุกทำลายสถานีรถไฟใต้ดินกับธุรกิจของจีน ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้
WATCH: Protesters torch the entrances of Causeway Bay MTR station as violence intensifies in Hong Kong over the face mask ban https://t.co/Gu31YBZjLw #HongKongProtests
— CNA (@ChannelNewsAsia) October 4, 2019
(Video: APTN) pic.twitter.com/AQLOVRp5bR
รถใต้ดินฮ่องกงประกาศระงับบริการทุกสายตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ รอประเมินสถานการณ์ก่อน ภาพบนสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นม็อบจุดไฟเผาสถานี
#HongKong protesters set fire to a train!!! pic.twitter.com/a4S7809rRH
— Liam Stone (@liamstone_19) October 4, 2019
และมีคลิปหนึ่งแสดงให้เห็นรถไฟขบวนหนึ่งถูกจุดไฟเผาด้วย ขณะที่ชาวฮ่องกงจำนวนมากต้องเดินกลับบ้าน
บริการรถโดยสารในเช้าวันนี้ก็อาจจะต้องเบี่ยงเส้นทางบางสาย จากสภาพถนนไม่พร้อม หลังสัญญาณไฟจราจรถูกทำลายเสียหายกว่า 100 จุด
ธุรกิจของจีนหลายแห่งตกเป็นเป้าของผู้ประท้วงที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้น กระจกสาขา แบงค์ ออฟ ไชนา ธนาคารเพื่อการก่อสร้างจีน และไชนา แทรเวล เซอร์วิสเซส ถูกทุบทำลายและมีการจุดไฟเผาด้านหน้า ธุรกิจอีกหลายแห่งก็โดนด้วย รวมถึงร้านกาแฟสตาร์บักส์แห่งหนึ่ง
เด็กวัย 14 ปีคนหนึ่งถูกยิงที่ขา อาการสาหัส ตำรวจยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ตำรวจยิงกระสุน 1 นัด เพราะชีวิตของเขาเองตกอยู่ในอันตรายจากผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่ที่ใช้ระเบิดเพลิงปาใส่ แต่ในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่ากระสุนนัดนั้นโดนใครหรือไม่
การไม่เปิดเผยตัวตนคือหัวใจของการเคลื่อนไหว แม้รัฐบาลออกมาตรการห้ามโดยเชื่อว่าจะช่วยป้องปรามการใช้ความรุนแรง และจำเป็นต้องหยุดยั้งไม่ให้สถานการณ์ฮ่องกงย่ำแย่ไปกว่านี้ แต่นักสังเกตการณ์ระบุว่า เป็นกฎที่ยากบังคับใช้และถูกมองเป็นสัญญาณแรกถึงการใช้มาตรการเฉียบขาดชุดใหญ่ หลังตัดสินใจใช้กฎหมายเก่าแก่ครั้งแรกใน 50 ปี