สถานการณ์ไวรัสโคโรนาปริศนาส่อใหญ่โตกว่าที่จีนแถลง   | คมชัดลึก

เซาท์ ไชนา มอร์นิงโพสต์ สื่อฮ่องกงรวบรวมความเห็นทางการสาธารณสุขหลายประเทศในเอเชีย ที่กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้เชื้อไวรัสโคโรนาปริศนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบจากอู่ฮั่น  อาจจะเข้าไปพร้อมกับการเดินทางช่วงตรุษจีน พบหลายประเทศวิตกว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรนาปริศนาจะใหญ่โตกว่าที่จีนแถลง  

 

เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อจากเคยอยู่ที่เพียง 41 รายนับจากพบครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว พุ่งทะยานเป็นกว่า 300 ในสัปดาห์นี้ ขณะผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 6 คน กับพบผู้ป่วยนอกจีน ที่ไทย 2 ราย ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้  แห่งละ 1 ราย และล่าสุด ก็มีการยืนยันแล้วว่า ไวรัสใหม่สามารถแพร่ได้ระหว่างคนกับคน และมีบุคลากรการแพทย์ 14 คนติดเชื้อจากผู้ป่วยคนเดียว

 

 อ่านต่อ ยับยั้งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต้องสกัดผู้ป่วยนักแพร่เชื้อ ( super spreader ) 

ที่ออสเตรเลีย กำลังสังเกตอาการผู้ต้องสงสัยติดเชื้อในบริสเบน ขณะฟิลิปปินส์ ยืนยันว่าพบเด็กชาวจีนคนหนึ่ง ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ไม่ใช่ซาร์ส หรือเมอร์ส แต่องค์การอนามัยโลก ที่จะประชุมฉุกเฉินพุธนี้ ( 22 ม.ค.) ยังไม่ยืนยันว่าว่าเป็นไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น 

 

ส่วนฟิลิปปินส์ ทางการระบุว่า กำลังตรวจนักท่องเที่ยว 3 คน หาเชื้อไวรัส ที่จังหวัดอัคลัน ทางภาคกลาง ซึ่งมีเที่ยวบินตรงจากจีน 

 

Piotr Chlebicki  ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อที่โรงพยาบาล อัลเวอร์เนีย ในสิงคโปร์ ที่เคยมีประสบการณ์รับมือกับโรคซาร์สระบาดในประเทศ กล่าวว่า ยากจะเชื่อตัวเลขอย่างเป็นทางการจากจีน ขณะมีผู้ติดเชื้อไปโผล่ในประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง “จีนมีประวัติรายงานต่ำกว่าความเป็นจริง ดังนั้น ภาพที่แท้จริงอาจแตกต่างสิ้นเชิง” 

 

ไทยไขปริศนา โคโรนาพันธุ์ใหม่ ท่ามกลางข้อมูลอันจำกัดจากจีน 

อนันต์ พัน ศาตราจารย์ชีวจริยศาสตร์ และสาธารณสุขโลก มหาวิทยาลัย Yenepoya เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย เตือนให้ทุกประเทศจะต้องตื่นตัว “โรคติดต่อไม่เคารพพรมแดนเวลาระบาด” 

 

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงที่เกาหลีใต้ บอกเซาท์ ไชนา มอร์นิงโพสต์ว่า ทางการสาธารณสุขสื่อสารกับฝ่ายจีนตลอด แต่ยากจะบอกได้ว่าเราได้รับข้อมูลเพียงพอเหมาะสม

 

Leong Hoe Nam ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อ โรงพยาบาล เมาท์ เอลิซาเบท โนวีนา ในสิงคโปร์ กล่าวว่า เราหวังว่าจะได้รับข้อมูลสำคัญทั้งหมดแต่เนิ่นๆ เพราะหนทางเดียวที่จะต่อสู้กับโรคระบาดได้ก็คือความโปร่งใสและรวดเร็วกว่าการระบาดของไวรัส  อย่างไรก็ดี  เหลียง และผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่พูดคุยกับเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ ระบุว่าข้อมูลเท่าที่มีในเวลานี้  บ่งว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  น่าจะอันตรายน้อยกว่าโรคซาร์ส 

 

อีกด้าน ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติบางส่วน มองว่า เหตุที่การแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่รวดเร็วพอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องผ่านขั้นตอนราชการหลายขั้นก่อนจะยืนยันได้ แต่ขั้นตอนเหล่านั้นก็เป็นกรอบงานที่จีนกำหนดขึ้นมาใช้เพื่อรับมือสมัยโรคซาร์สระบาดในปี 2546 หลังจากจีนปกปิดในตอนแรก จนทำให้ทั่วโลกไม่เชื่อถือ  ซึ่งต่อมา โรคซาร์สคร่าชีวิตเหยื่อเกือบ 800 และติดเชื้อทั่วโลกอีกกว่า 8,000