เหตุผลอะไร องค์การอนามัยโลกไม่ประกาศไวรัสโคโรนาภัยฉุกเฉิน
ชัตดาวน์ 8 เมือง ห้ามคนหลายสิบล้านเดินทาง เชื้อไวรัสโคโรนาโผล่ในหลายประเทศรวมไทย เสียชีวิต-ติดเชื้อพุ่ง แต่ยังไม่ใช่ภัยฉุกเฉินระดับโลก
องค์การอนามัยโลกประชุมอีกรอบเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนมีมติว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดหนักในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน ยังไม่เข้าขั้นที่จะประกาศภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ( public health emergency of international concern - PHEIC) แม้ว่ายอดผู้เสียชีวิตขณะนี้เพิ่มเป็น 26 คน ติดเชื้ออีก 894 คน ในจีน 875 คน ที่เหลือพบที่ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา
ความเห็นของหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติ มีขึ้นวันเดียวกับที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการหักดิบ ปิดเมืองเพิ่มรวมเป็น 8 เมืองในมณฑลหูเป่ย รวมถึงศูนย์กลางการระบาดอย่างอู่ฮั่น เพื่อยับยั้งไวรัสแพร่ลาม แต่ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนถึงความวิตกขอบข่ายการระบาด
Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงหลังประชุมว่า “นี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินในจีน แต่ยังไม่กลายเป็นความฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก” “ไม่มีหลักฐานการแพร่จากคนสู่คนนอกประเทศจีน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้น”
ดีดีเยร์ ฮูสซิน ผู้อำนวยการคณะทำงานรับสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO ระบุว่า เสียงในคณะกรรมการ 21 คนเห็นต่างแบบครึ่งต่อครึ่ง ส่วนหนึ่งมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน เพราะจำนวนผู้ป่วยนอกจีนยังจำกัดมาก แต่คณะกรรมการก็พร้อมประชุมทุกเมื่อ หากลงความเห็นว่าจำเป็นต้องปรับการตัดสินใจกันใหม่
แม้ว่าไม่ได้ประกาศภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่ WHO ก็ขอให้ประเทศสมาชิกวางมาตรการรับมือกับการระบาด และตั้งคณะทำงานนานาชาติสหวิชาชีพสอบสวนไขปริศนาเชื้อไวรัสชนิดนี้ รวมถึงสัตว์ต้นตอที่มาของเชื้อ และลักษณะการแพร่
Maria Van Kerkhove ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ แห่งศูนย์สาธารณสุขโลก สถาบันปาสเตอร์ในกรุงปารีส กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกยังกำลังรวบรวมชุดคำแนะนำทางเทคนิคให้กับทุกประเทศ ข้อเสนอแนะเหล่านั้นรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องระบุแหล่งที่มาแต่เนิ่นๆ ป้องกันการแพร่ระหว่างคนกับคน และดูแลผู้ติดเชื้ออย่างเหมาะสม
แม้ว่าเวลานี้ไวรัสใหม่จากอู่ฮั่นแพร่ลามยังเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วจีน ประเทศในเอเชีย และไกลถึงฝั่งตะวันตกสหรัฐอเมริกา แต่องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้จำกัดการเดินทาง หรือการค้า
ส่วนการตัดสินใจกักกันเมืองอู่ฮั่น ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกไม่แสดงความเห็น นอกจากระบุว่า จีนเป็นประเทศอธิปไตย และเชื่อว่ากำลังดำเนินมาตรการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
ส่วน ฮูสซิน ผู้อำนวยการคณะทำงานรับสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า รัฐบาลจีนควรดำเนินนโยบายอย่างโปร่งใส แชร์ข้อมูลกับประชาคมโลก อธิบายการบริหารจัดการความเสี่ยง และเหตุผลและวิธีการทุกอย่างที่นำมาใช้
ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยบริหารโครงการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า หลายประเทศทั่วโลกอยู่ในสถานะพร้อมรับมือกับไวรัสโคโรนาอู่ฮันได้ดีกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ เพราะเชื้อไวรัสล่าสุด สามารถระบุชนิดได้รวดเร็ว ทำให้การตรวจหารวดเร็ว กระนั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่าง รวมถึงความร้ายแรงของเชื้อและการแพร่เชื้อ
อัตราการตายของไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่ หรือ 2019-nCoV จนถึงขณะนี้ ยังต่ำกว่าโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส ) และโรคเมอร์ส ที่เกิดจากไวรัสตระกูลเดียวกัน แต่การระบาดยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ยังไม่อยู่ในสถานะที่จะพูดได้ว่าการระบาดถึงขีดสุดแล้ว