ผลศึกษาคาดระยะเวลาที่ไวรัสโรคโควิด-19 อยู่บนพื้นผิววัตถุ
หากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ไม่ได้ผ่าเหล่าผ่ากอจากไวรัสในตระกูลเดียวกัน น่าจะมีชีวิตรอดบนพื้นผิวได้นานเป็นสัปดาห์
ผลศึกษาใหม่ พบว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังรออนุมัติชื่อเป็นทางการ SARS-CoV-2 สาเหตุของโรคโควิด -19 หรือโรคไวรัสโคโรน่า19 อาจรอดชีวิตบนพื้นผิวและสามารถแพร่เชื้อได้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 9 วัน
แต่ผลวิจัยก็พบว่า น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ( น้ำยาฟอกขาว หรือบลีช ) และโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (สารฟอกขาวอีกชนิดหนึ่ง) มีฤทธิ์กำจัดไวรัสโคโรน่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัย รูห์ โบคุม ในเยอรมนี ที่เผยแพร่งานวิจัย ในวารสาร Journal of Hospital Infection ประเมินผลการศึกษา 22 ชิ้นเกี่ยวกับไวรัสในตระกูลโคโรน่าทั้งในสัตว์และคน ซึ่งมีซาร์ส และเมอร์ส รวมอยู่ด้วย โดยจริงๆแล้ว ทีมงานตั้งใจเผยแพร่ผลวิเคราะห์เรื่องนี้ในตำราเล่มใหม่ แต่สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาด ทำให้นักวิจัยเผยแพร่ในรูปผลการศึกษาออกมาก่อน
ทั้งนี้ แม้ว่ายังไม่มีใครทำการวิจัยไวรัส ซาร์ส-คอฟ2 อย่างเฉพาะเจาะจง แต่ไอเคอ ชไตน์มานน์ ผู้เขียนผลศึกษาจากมหาวิทยาลัยไลบ์นิซ ฮานโนเอร์ อธิบาย ว่าผลศึกษา สามารถนำมาใช้ประยุกต์กับไวรัสที่ระบาดในเวลานี้ได้ เพราะเมื่อวิเคราะห์ไวรัสโคโรน่าต่างกันหลายสายพันธุ์ ผลที่ได้ออกมาเหมือนกันทั้งหมด
ผลวิเคราะห์ไวรัสในตระกูลโคโรน่า บางสายพันธุ์อยู่บนพื้นผิวที่อุณหภูมิห้องนานสุด 9 วัน แต่โดยเฉลี่ย มีชีวิตอยู่ได้ระหว่าง 4-5 วัน บนวัตถุหลายอย่าง อาทิ เหล็ก อลูมิเนียม ไม้ กระดาษ พลาสติก ลาเท็กซ์ และแก้ว
ศาสตราจารย์ กึนเทอร์ คัมฟ์ จากสถาบันเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไกรฟ์วาล์ท กล่าวว่า อุณหภูมิต่ำและความชื้นอากาศสูง จะยิ่งยืดอายุของไวรัส
กระนั้น นักวิจัยไม่มีข้อมูลและคำตอบว่า ไวรัสโคโรน่าสามารถแพร่ผ่านพื้นผิวติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน ในประเด็นนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ ยังใช้แนวทางแบบระมัดระวังว่า “ปัจจุบัน ไม่ชัดเจนว่าคนสามารถได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จากการสัมผัสพื้นผิวหรือวัตถุที่ปนเปื้อนไวรัสอยู่ แล้วมือสัมผัสหน้าปาก จมูกหรือตา”
นี่จึงเป็นเหตุผลที่องค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำว่า การสวมหน้ากากอนามัยอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ยังต้องล้างมือบ่อยๆด้วย