ข่าว

'ปานปรีย์' รับเสียใจที่สุด เชื่อต่างชาติเข้าใจ เหตุ ‘กราดยิงสยามพารากอน’

'ปานปรีย์' รับเสียใจที่สุด เชื่อต่างชาติเข้าใจ เหตุ ‘กราดยิงสยามพารากอน’

06 ต.ค. 2566

'ปานปรีย์' รมว.ต่างประเทศ เสียใจที่สุด แต่เชื่อต่างชาติเข้าใจเหตุการณ์ ‘กราดยิงสยามพารากอน’ หลังรัฐบาลไทยชัดเจนด้านมาตรเยียวยาเต็มที่ ขออย่ากังวล ยืนยันไม่ปล่อยผู้ก่อเหตุลอยนวล เผย ประสานสถานฑูตถวายอารักขา มกุฎราชกุมาร มาเลเซียแล้ว

3 วันหลังเยาวชน 14 ปี ก่อเหตุการณ์ "กราดยิงสยามพารากอน" ล่าสุดมีคามเคลื่อนไหวจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ ที่สยามพารากอนเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ว่า เบื้องต้นทางสถานทูตไม่ได้มีการร้องขอมาทางกระทรวงการต่างประเทศซึ่งทางสถานทูตได้รับทราบว่า รัฐบาลไทยและห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กำลังดำเนินการนี้อยู่ ซึ่งมีการแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนจากทางห้างสรรพสินค้าขณะที่รัฐบาลเอง ก็ได้ให้การสนับสนุนด้านการเงินในการช่วยเหลือเยียวยา ให้กับครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่

ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร

“จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะมีระเบียบของราชการอยู่แล้วว่าภาครัฐจะสามารถช่วยเหลือเยียวยาเรื่องนี้ได้ ในจำนวนเท่าไหร่”

 

\'ปานปรีย์\' รับเสียใจที่สุด เชื่อต่างชาติเข้าใจ เหตุ ‘กราดยิงสยามพารากอน’

 

สำหรับปฏิกิริยาของต่างประเทศที่มีต่อเหตุการณ์“กราดยิงสยามพารากอน” ที่เกิดขึ้นนั้นตนมองว่าเป็น เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งเกิดจากเด็กอายุเพียง 14 ปีและคิดว่าต่างชาติจะเข้าใจ เพียงแต่ว่าภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป โดยเชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)จะมีการวางมาตรการที่เข้มข้นต่อไป

 

ทั้งนี้ มาตรการมีสองอย่าง อันดับแรก คือการช่วยเหลือเยียวยาและอันดับสอง วางมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก เมื่อมีสองมาตรการที่ชัดเจนก็เชื่อว่าชาวต่างชาติจะกลับมาให้ความเชื่อมั่นกับประเทศไทยอีกครั้ง 

 

 

“ผมยอมรับว่าในช่วงต้น อาจจะกระทบกับความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวบ้าง แต่เมื่อได้เห็นความชัดเจน ด้านมาตรการรวมถึง การดำเนินการกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายซึ่งเป็นเยาวชน ตามกฏหมายที่คุ้มครองอยู่แต่จะปล่อยให้ลอยนวลไปไม่ได้ และคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเหตุการณ์ระยะสั้นเท่านั้น”รมว.ต่างประเทศ ระบุ

 

 

ส่วนกรณีที่ ตนกู อิสมาอิล สุลต่าน อิบราฮิม มกุฎราชกุมารรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย อยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าวด้วยนั้น รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้รับทราบ ว่าท่านอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงในเวลาที่เกิดเหตุ แต่ได้ออกไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ไม่ได้รับผลกระทบอะไร โดยทางรัฐบาลไทยได้แสดงความกังวลและเป็นห่วงพร้อมทั้งถวายอารักขาให้อย่างเต็มที่ โดยการสื่อสารผ่านเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย

 

 

ส่วนที่ระบุว่า มกุฎราชกุมารรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้น รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าสำหรับคนที่ไม่เคย ประสบเหตุการณ์แบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายและถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและน่าเสียใจที่สุด