ข่าว

'โดนัลด์ ทรัมป์' ถูกตัดสินความผิดอาญา 34 กระทง ปลอมเอกสารปิดเรื่องฉาวทางเพศ

'โดนัลด์ ทรัมป์' ถูกตัดสินความผิดอาญา 34 กระทง ปลอมเอกสารปิดเรื่องฉาวทางเพศ

31 พ.ค. 2567

คนแรกในประวัติศาสตร์ ศาสพิพากษา 'โดนัลด์ ทรัมป์' มีความผิดคดีอาญา 34 กระทง ฐานปลอมแปลงเอกสารเพื่อปกปิดการจ่ายเงินเพื่อปิดปากเรื่องฉาวทางเพศ

วันที่ 31 พ.ค.67 สำนักข่าว reuters รายงานการตัดสินคดีของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา ซึ่งมีมากถึง 34 กระทง โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะลูกขุนนิวยอร์กตัดสินว่าเขามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารเพื่อปกปิดการจ่ายเงินเพื่อปิดปากดาราหนังโป๊รายหนึ่งก่อนการเลือกตั้งปี 2559

 

หลังจากการไตร่ตรองเป็นเวลา 2 วัน คณะลูกขุน 12 คนได้ตัดสินให้ ทรัมป์ มีความผิดในความผิดอาญาทั้ง 34 กระทง ภายหลังการตัดสิน ทรัมป์ เฝ้าดูคณะลูกขุนอย่างไม่เต็มใจในขณะที่พวกเขาถูกสำรวจเพื่อยืนยันคำตัดสินที่เป็นเอกฉันท์

ผู้พิพากษา ฮวน เมอร์ชาน กำหนดโทษจำคุกในวันที่ 11 กรกฎาคม เพียงไม่กี่วันก่อนที่พรรครีพับลิกันจะมีกำหนดเสนอชื่อทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ก่อน การเลือกตั้ง ในวันที่ 5 พฤศจิกายน

 

สำหรับ ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจมีโทษจำคุกสูงสุดสี่ปีแม้ว่าผู้ถูกตัดสินลงโทษมักจะได้รับโทษปรับ หรือคุมประพฤติน้อยกว่าก็ตาม การจำคุกของ ทรัมป์ จะไม่มีผลต่อการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งของเขา ที่จะมีการรณรงค์หาเสียงหรือเข้ารับตำแหน่งตามกฎหมายหากเขาต้องชนะ

 

เขาจะไม่ถูกจำคุกก่อนการพิจารณาคดี โดยคำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้สหรัฐฯ ตกอยู่ในดินแดนที่ยังไม่มีใครสำรวจก่อนการลงคะแนนเสียงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทรัมป์จะพยายามแย่งชิงทำเนียบขาวจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต

 

ภาพจาก reuters รายงานการตัดสินคดีของ "โดนัลด์ ทรัมป์"  

ทรัมป์ วัย 77 ปี ​​ปฏิเสธการกระทำผิด และทนายความที่เป็นตัวแทนของเขากล่าวว่าพวกเขาจะอุทธรณ์โดยเร็วที่สุด "นี่เป็นความอัปยศ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากนั้น ในขณะที่เขาประกาศความบริสุทธิ์ของเขา และย้ำข้อร้องเรียนของเขาอีกครั้งว่าการพิจารณาคดีเป็นการหลอกลวงเขา

 

"คำตัดสินที่แท้จริงจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. โดยประชาชน" เขากล่าว และก่อนที่ ทรัมป์ จะเดินทางออกจากศาล เขาได้ ชูนิ้วโป้งผ่านหน้าต่างกระจกรถยนต์ SUV ของเขา ก่อนจะออกไปด้วย

 

ข้อมูลจาก : reuters