ข่าว

พยาบาลออกโรงเตือนเอง อย่าละเลยสัญญาณเหล่านี้ หลังป่วยมะเร็งลำไส้

พยาบาลสาววัย 31 ปี ออกโรงเตือน อย่าละเลยสัญญาณเหล่านี้ หลังป่วยมะเร็งลำไส้ ต้องตัดลำไส้ทิ้ง พบประวัติคนในครอบครัวป่วยโรคมะเร็งลำไส้เช่นกัน

8 ก.ย. 2567 สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องราวของพยาบาลสาวชาวออสเตรเลีย ชื่อ Talitha Akamarmoi วัย 31 ปี นิวเซาท์เวลส์ เธอได้ออกมาแชรืประสบการณ์ป่วยมะเร็ง และการรักษาโรคร้ายนี้ โดยเธอเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 ตอนนั้นเธออายุ 29 ปี เธอมีอาการอ่อนล้าอย่างมาก เหนื่อยผิดปกติ ครั้งแรกแพทย์และเพื่อนพยาบาลสรุปว่าอาจเป็นภาวะอ่อนเพลียหลังคลอด เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกไป เนื่องจากผลตรวจเลือดพบว่าเธอขาดธาตุเหล็กอย่างมาก

 

 

แต่แล้วมันไม่เป็นแบบที่คาดการณ์ไว้ 24 พ.ย. 2021 เมื่อผลตรวจอย่างละเอียดยืนยันว่า พบเนื้องอกที่เป็นต้นตอของโรค และทำให้ Talitha Akamarmoi อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า เนื้องอกนี้อยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ บ่ายวันนั้น เธอเข้ารับการตรวจ CT scan ทันที เพื่อตรวจหาว่ามีการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งไปบริเวรอื่นหรือไม่ และโชคดีที่มันยังไม่ลุกลามมาก

Talitha Akamarmoi ได้รับการผ่าตัดแบบส่องกล้องเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2567  เพื่อเอาลำไส้ใหญ่ขวา และต่อมน้ำเหลืองโดยรอบออกทั้งหมด จากนั้นต้องรอผลการตรวจทางพยาธิวิทยาอีกเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ น่าเสียดายที่มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองสี่แห่ง ดังนั้นจำเป็นต้องใช้เคมีบำบัด เธอได้ทำเคมีบำบัดเสร็จสิ้นเมื่อเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2022 โดยปู่ของเธอเคยป่วยด้วยโรคร้าย นี้เมื่ออายุ 50 ปี

 

 

ผลการตรวจวันนี้ไม่พบสัญญาณมะเร็งในร่างกาย แต่ต้องตรวจร่างกายอย่างต่อเนื่องอีก 3 เดือน คำแนะนำที่สำคัญที่สุดของ Talitha สำหรับคนรุ่นใหม่ทุกคน คือ จงหมั่นดูแล ตรวจ สำรวจสุขภาพของตัวเอง เนื่องจากมะเร็งลำไส้ไม่ใช่แค่ โรคของผู้สูงอายุเท่านั้น

อาการของโรคมะเร็งลำไส้

  • การขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องเสีย ท้องผูก หรือรู้สึกว่าถ่ายไม่หมด
  • อุจจาระเหลวหรือท้องเสียบ่อยๆ
  • มีเลือดหรือมูกในอุจจาระ
  • ปวดท้อง ท้องอืด ปวดเกร็ง
  • ปวดทวารหนัก
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียผิดปกติ
  • โรคโลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

ที่มา : dailymail