ข่าว

เพื่อนแรงงานในอิสราเอล เล่านาทีระเบิดสังหารหนุ่มแรงงานวัย 42 ดับคาไร่

เพื่อนแรงงานในอิสราเอล เล่านาทีระเบิดสังหารหนุ่มแรงงานวัย 42 ดับคาไร่

13 ต.ค. 2567

เพื่อนแรงงานในอิสราเอล เล่านาทีระเบิดสังหารหนุ่มแรงงานวัย 42 ดับคาไร่ ญาติเฝ้ารอศพกลับบ้านเกิด ลั่นจำใจอยู่ต่อ เพราะภาระหนี้สิน

13 ต.ค. 2567 บรรยากาศที่ หมู่ที่ 8 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายนิสันต์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 42 ปี แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ทางตอนเหนือของอิสราเอล เสียชีวิตจากการระเบิดของกระสุน (ammunition) ซึ่งตกค้างอยู่บริเวณที่ทำงานในไร่แอปเปิล เสียชีวิตช่วงเช้าวันนี้ 12 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา

 

 

โดยครอบครัวต่างเฝ้ารอการนำร่างไร้วิญญาณ ของนายนิสันต์ กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ด้วยความโศกเศร้า โดยที่ยังไม่ทราบกำหนดการชัดเจนว่า ทางการจะส่งศพกลับมาถึงวันไหน แต่ก็อยากให้ส่งศพกลับมาให้เร็วที่สุด ขณะที่นางพฤกษา สงวนนามสกุล อายุ 43 ปี ภรรยาของนายนิสันต์ แรงงานที่โดนระเบิดเสียชีวิต ก็พยายามติดต่อประสานกับเพื่อนแรงงานชาวไทย ที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับสามี เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการนำร่างของสามีกลับบ้าน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

โดยเพื่อนแรงงานก็แจ้งแค่ว่า นายจ้างได้อพยพคนงานทั้งหมดไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนศพของสามี น่าจะถูกส่งไปชันสูตรที่ รพ. พร้อมฝากให้เพื่อนแรงงานที่นั่นช่วยประสานกับนายจ้างอิสราเอล และแจ้งข่าวให้ทราบด้วย

ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านวีดีโอคอลกับนายเอ็ม (นามสมมติ) เพื่อนแรงงานชาวไทย ที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับผู้ตาย ก็เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุแรงงานทุกคนก็ออกไปเก็บแอปเปิ้ลในไร่ตามปกติ โดยในไร่ที่เกิดเหตุแอปเปิ้ลจะมีทั้งหมด 4 แถว ตนอยู่ล็อกเดียวกันกับนายนิสันต์

 

 โดยนายนิสันต์ อยู่คนที่ 2 ส่วนตนอยู่คนที่ 4 แต่ตอนที่เกิดเหตุได้ยินแค่เสียงดังของระเบิด แรงงานทุกคนในไร่ต่างก็หมอบลงกับพื้น กระทั่งมีแรงงานที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุตะโกนว่านายนิสันต์ โดนระเบิด เสียชีวิต แต่ไม่มีใครทราบว่าระเบิดดังกล่าวมาจากไหนแล้วเกิดระเบิดได้อย่างไร

 

โดยนายจ้างแจ้งว่าต้องรอคำตอบจากทางการ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางนายจ้างก็ให้แรงงานทุกคนหยุดทำงานก่อน แล้วย้ายออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยไร่ผลไม้ที่พวกตนทำงานมีแรงงานไทยอยู่ทั้งหมด 24 คน ส่วนศพของนายนิสันต์ หลังจากทหารมานำร่างออกจากสวนก็ยังไม่ได้เจออีกเลย คาดว่าน่าจะอยู่ที่ รพ.อยู่ในขั้นตอนการชันสูตรหรือพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อยืนยันการเสียชีวิต

 

ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุ แรงงานทุกคนกังวลเรื่องความปลอดภัย ก็ได้แต่รอฟังความชัดเจนจากนายจ้าง และทางการอิสราเอลเท่านั้น แต่ถึงแม้จะกังวลก็ยังไม่ได้อยากเดินทางกลับ เพราะภาระครอบครัวและหนี้สิน อยากทำงานให้ครบสัญญา