ส่องนโยบายสำคัญ ทรัมป์ หวนนั่ง ปธน.สหรัฐฯ ผู้อพยพ สงคราม การค้า จะเป็นอย่างไร | คมชัดลึก

"โดนัลด์ ทรัมป์" หวนคืนทำเนียบขาว นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สมัยที่ 2 และกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 47 หลังผลการเลือกตั้ง คะแนนทิ้งห่างจากคู่แข่งอย่าง "กมลา แฮร์ริส" โดย "ทรัมป์" เชื่อว่า จะชนะศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน

 

ทิศทางการบริหารประเทศของ ภายใต้การนำของ "โดนัลด์ ทรัมป์" จากพรรครีพับลิกัน ในช่วงเวลาอีก 4 ปีข้างหน้า เป็นที่จับตาอย่างมาก เนื่องจาก นโยบายต่างๆ ของ "ทรัมป์" ส่วนใหญ่เป็นนโยบายส่งเสริมผลประโยชน์ให้กับ ชาวอเมริกัน ใน "สหรัฐอเมริกา" เสริมสร้างความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ความมั่นคง แก้ปัญหาผู้อพยพ รวมถึงมีนโยบายด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์กับจีนที่ต้องจับตา

นโยบายน่าจับตาภายใต้การบริหารสหรัฐฯของ "โดนัลด์ ทรัมป์" จากพรรครีพับลิกัน

 

ด้านผู้อพยพ

 

• "ทรัมป์" มีนโยบายที่จะผลัก "ผู้อพยพ" เข้ามาในสหรัฐฯแบผิดกฎหมาย โดยได้ประกาศในการหาเสียงว่าจะมีโครงการ เนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยจะมีการหาช่องทางเพิ่มปริมาณการเนรเทศผู้อพยพ เป็นมากกว่า 1 ล้านคนในแต่ละปี
• โดยเผนดังกล่าวยังมีแนวทางในการใช้เงินของกองทัพเพื่อสร้างค่ายกักกันผู้อพยพขนาดใหญ่ เพื่อกักกันกลุ่มผู้อพยพระหว่างดำเนินการเนรเทศ
• นอกจากนี้ ถ้าหากผู้ที่อพยพเข้าสหรัฐฯแบบผิดกฎหมายให้กำเนิดบุตร เด็กจะไม่สามารถใช้สัญชาติของ "สหรัฐฯ" ได้ รวมถึงไม่ออกเอกสารสำคัญและหนังสือเดินทางให้ 
• จ่อฟื้นคำสั่งห้ามพลเมืองจากชาติมุสลิมเข้าสหรัฐฯ หลังจากที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวไปในปี 2564
   

ท่าทีต่อยูเครนและ NATO

 

• การกลับมาของทรัมป์อาจทำให้สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ นาโต (NATO) ต้องปั่นป่วนอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะให้สหรัฐฯ ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกนาโต เมื่อเขามองว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายถูกสูบทรัพยากร
• ทรัมป์ เคยลั่นวาจาว่าสามารถยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานได้ภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเสนอจะมีการทำข้อตกลงกับทางรัสเซีย

 

ด้านการค้า

 

เรียกเก็บภาษีใหม่ในอัตรา 10-20% สำหรับสินค้าที่นำเข้าและผลิตจากต่างประเทศ และใช้นโยบายที่เข้มงวดขึ้นกับสินค้านำเข้าจากจีน โดยอาจยุติการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจากจีน และหากฎเกณฑ์ใหม่มาบังคับใช้ เพื่อหยุดบริษัทอเมริกันจากการลงทุนในจีน

 

ข้อมูลจาก : อ้างอิง1