'ศุภชัย โพธิ์สุ'จากลูกชาวนาสู่ส.ส.ของคนนครพนม
"ครูแก้ว" ศุภชัย โพธิ์สุ จากลูกชาวนา สู่ส.ส. ของคนนครพนม กับบทพิสูจน์ใหม่ในการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติ
นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ชื่อที่คนนครพนมคุ้นเคยกันดี ในฐานะคนพื้นที่ และเป็นตัวแทนของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร และขณะนี้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผุ้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังชนะนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ด้วยคะแนนเสียง 256 ต่อ 239 เสียง
นายศุภชัย โพธิ์สุ เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 ที่จังหวัดนครพนม สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพครู จากวิทยาลัยครูสกลนครระดับปริญญาตรีสาขาการบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และระดับปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
เริ่มต้นงานการเมืองได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาจังหวัด หรือ ส.จ. จนกระทั่งปี 2535 เริ่มเข้าสู่งานการเมืองแบบเต็มตัวด้วยการลงสมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดนครพนม ในนามพรรคพลังธรรม แต่น่าเสียดายที่สอบตก แต่ครูแก้ว ก็ทำงานในพื้นที่ดูแลปัญหาทุกร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2544 ครูแก้วชนะการเลือกตั้ง ส.ส. เขต 5 นครพนม พรรคความหวังใหม่ ก่อนพรรคความหวังใหม่จะยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย
ตั้งแต่นั้นครูแก้ว ครองพื้นที่ในจังหวัดนครพนมมาตลอด ชนะการเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2549 ก่อนการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 จะชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ส. เขต 1 จังหวัดนครพนม พรรคภูมิใจไทย
นายศุภชัย เป็นแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ให้การสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากที่คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นสภาพไปเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคพลังประชาชน เมื่อปลายปี พ.ศ. 2551
ทั้งนี้ นายศุภชัย ยังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผลงานเด่นในยุคนั้นคือการแก้ไขปัญหาราคาไข่แพง และสร้างศูนย์เรียนรู้การทำสวนยาง ยกระดับคุณภาพการทำสวนยางให้กับประชาชนทั่วประเทศ และในระหว่างการทำหน้าที่ ส.ส. ครูแก้ว ไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตให้แก่เยาวชน เช่น มอบทุนการศึกษา และสนับสนุนเรื่องกีฬา เพื่อยกระดับชีวิต และสร้างอนาคตให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อให้คนเหล่านั้นก้าวเป็นอนาคตที่ดีของประเทศต่อไป
หลังจากนี้ ครูแก้ว ได้รับบทพิสูจน์ใหม่ในการทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะบริหารงานของสภาผู้แทนราษฎร ดูแลสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 500 คน เพื่อให้ตอบสนองงานที่ประชาชนทั่วประเทศฝากความหวังไว้