ศาลไต่สวนมูลฟ้อง ชูวิทย์ ยื่นฟ้อง 'ทนายตั้ม' กล่าวหาเรียกรับเงิน 6 ล้าน
ศาลเข้าสู่กระบวนการไต่สวนมูลฟ้อง "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ "ยื่นฟ้อง "ษิทรา เบี้ยบังเกิด" หรือ "ทนายตั้ม" ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ประเด็นกล่าวหาเรียกรับเงิน 6 ล้านบาท ทนายอนันต์ไชย ที่ปรึกษาทางกฏหมาย ท้าคู่กรณีถ้ามีหลักฐานเด็ดขอให้เปิดมา
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่พูดถึงการเรียกรับเงินจำนวน 6 ล้านบาท จากเว็บไซต์พนันออนไลน์ และบุตรชายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล 50 ล้านบาท นายอนันต์ไชย ไชยเดช ทนายความ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้องกรณีที่ นายษิทรา ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับเงิน 6 ล้านบาท ในทำนองว่า นายชูวิทย์ เรียกผู้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์มาที่โรงแรมเดอะเดวิส และทำการเรียกรับเงิน รวมถึงมีการพูดถึงเงินดิจิทัล 50 ล้านบาท ที่บุตรชายของนายชูวิทย์ ได้รับจากเว็บพนัน
นายอนันต์ไชย กล่าวว่า การที่เป็นทนายความ จะเอาคำพูดที่ "คิดว่า" , "เห็นว่า" โดยไม่มีพยานหลักฐาน มากล่าวอ้างเป็นเรื่องไม่ควร สำหรับคดีอาญา ต้องมีประจักษ์พยานชัดเจน ที่ผ่านมาแม้หลักฐาน 99.99% ศาลยังเคยยกฟ้อง "สำหรับ "ทนายตั้ม" เองไม่มีส่วนได้เสียกับทางนายชูวิทย์ แต่มาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรียกสื่อมวลชน เรียกนายชูวิทย์ไปด่า ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควร ถ้ามีข้อขัดแย้ง หรือถ้ามีส่วนที่โกรธเคืองมาก่อนอย่างนั้นก็ว่าไปอย่าง แต่เรื่องนี้ ไม่มีเลย จู่ ๆ ก็มาตั้งโต๊ะแถลงข่าว โดยหลักการของผม ยืนยันว่า จะไม่ด่าใครก่อน วันนี้ที่มาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ทนายตั้มก็ควรพิสูจน์ตัวเองด้วย ถ้าคิดว่ามีส่วนได้เสีย มีพยานหลักฐาน ก็ขอให้เปิดมา ในเรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องจริงถือว่ายิ่งผิด เพราะเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นประเด็น ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ สิ่งนี้ในข้อกฎหมายระบุว่า ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของชีวิต การเอาออกมาพูดออกสื่อก็ถือว่าผิด" นายอนันต์ชัย ระบุ