'ผู้ว่าหมูป่า' ผู้ว่าในฝันสนามกทม. บั้นปลายผมอยากเกษียณอย่างสง่าผ่าเผย
บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์แวดวงราชการ เมื่อ "ผู้ว่าหมูป่า" ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เคยได้รับการทาบทามให้ลงสมัครชิงตำแหน่ง "ผู้ว่ากทม." ในนามพรรคพลังประชารัฐ แต่สิ่งที่ผู้ว่าปทุมธานีสะท้อนกลับมา คือความสุขใจและการเลือกที่จะทำหน้าที่เพื่อรับใช้ชาวปทุมธานี
เส้นทางชีวิตในบั้นปลายของการรับราชการ ของ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ก่อนที่จะสิ้นสุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มุมชีวิตอีกด้านที่น่าสนใจ ของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่สร้างชื่อจากปฏิบัติการอำนวยความช่วยเหลือในการค้นหา 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นใน เดือน มิ.ย. ปี 2561 จนเป็นที่มาของคำเรียกผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้น คือ "13 หมูป่า" รวมไปถึง "ผู้ว่าหมูป่า" อันหมายถึงบทบาทการทำหน้าที่ของ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในขณะนั้น
เส้นทางของ "ผู้ว่าหมูป่า" ที่มาคาบเกี่ยวกับสนามเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร "ผู้ว่าฯกทม." ถูกเปิดประเด็นมาจากพลังประชารัฐ ในขณะนั้น คือ ก.ค. 2562 ทั้งนี้ คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นประธานคณะทำงาน ทำหน้าที่เพื่อพิจารณาคัดสรรตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้เสนอชื่อ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ( ในขณะนั้น ) ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม. หรือขั้นตอนการเตรียมการ
ทั้งนี้หาก "ผู้ว่าหมูป่า" ตอบรับในการร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากทม. เท่ากับว่า จะต้องแข่งขันกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมัครในนามอิสระ , สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประชาธิปัตย์ , วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล , สกลธี ภัททิยกุล สมัครในนามอิสระ และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สมัครในนามอิสระ ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ในเดือน พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ไม่มีชื่อของบุคคล ที่่ส่งลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งไม่มีชื่อของ "ผู้ว่าหมูป่า" ซึ่งอยู่ในรอยต่อของการมารับราชการในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
ปัจจัยที่ทำให้ชื่อเสียงของ "ผู้ว่าหมูป่า " ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ได้รับการยอมรับจากพรรคพลังประชารัฐ นับจากการบรรจุชื่ออยู่ในบัญชีของพรรค ในปี 2562 จนมาถึงปี 2564 ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. 2565 คือ ผลงานของผู้ว่า ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ที่สร้างชื่อเอาไว้จากเหตุการณ์ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย ในปี 2562 กระทั่งย้ายไปรับราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และจังหวัดลำปาง ตามลำดับ และด้วยผลงานที่จังหวัดลำปาง ด้วยการทำให้พื้นที่ ปลอดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกแรก จากการบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ทำให้ลำปางถูกประกาศเป็นพื้นที่ปลอดโควิด 100 %
ความโดดเด่นในการทำงานด้วยความเอาใจใส่ ทำให้ชื่อของ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าหมูป่า เมื่อย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ก็ยังคงได้รับการยอมรับจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ทาบทามให้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม การให้คำตอบกับสื่อมวลชนในเดือนธ.ค. 2564 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ ซึ่งร่างกายเริ่มซูบผอม ระบุในขณะนั้นไว้ว่า
"การถูกกล่าวถึง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ต่อคำชักชวนให้ไปลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครถือว่าเป็นเกียรติ เพราะมีคนรักเท่าผืนหนัง ดีกว่ามีคนชังเท่าผืนเสื่อ แต่ระบบราชการ การที่จะเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต้องคำนึงถึงการมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ( คุณสมบัติต่อการมีชื่อในทะเบียน) กระแสข่าวที่พาดพิงว่าจะลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร แต่เนื่องจากผมเพิ่งมารับงานในตำแหน่งผู้ว่าปทุมธานี ( ธ.ค. 2564) ผมจะตอบคำถามประชาชนชาวปทุมธานี ได้อย่างไร ผู้ว่าปทุมธานี ไม่รักชาวปทุมธานีอย่างนั้นใช่ไหม จึงย้ายเพื่อที่จะไปลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา เชียงราย , พะเยา, ลำปาง, ไม่ว่าจะอยู่สั้น อยู่ยาว ผมทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าด้วยการทำงาน ผมมีคนรักมากกว่าคนเกลียด เชื่อว่าการที่อยู่ปทุมธานี เท่ากับว่าผมจะทำอะไรได้มากกว่าให้กับปทุมธานี ชีวิตข้าราชการอย่างผมไม่ขออะไรมาก ขอเพียงเพียงเมื่อเราเกษียณราชการ และเราสามารถเกษียณได้อย่างสง่าผ่าเผย นี่คือที่สุดของความภาคภูมิใจ"
"ผมดีใจที่ได้ทำหน้าที่เป็น 1 ในล้านคน ที่ทุ่มเททำงานเพื่อปทุมธานีในฐานะพ่อเมือง ผมภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เป็นข้าราชการที่ดี ผมยึดมั่นใจพระราชดำรัสให้เราเป็นคนดี เป็นข้าราชการที่ดี อายุราชการผม เหลืออีก 3 ปี ผมมาถึงในจุดที่เป็นดวงอาทิตย์ใกล้อัสดง บ้านเมืองต้องส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ ดังนั้นผมจึงอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด ให้เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นข้าราชการที่ดี บั้นปลายผมเองเกษียนอายุราชการ ก็อยากที่จะไปทำงานสอนหนังสือ ผมมองว่าการที่เราสามารถสอนคน ให้เป็นคนดีขึ้นมาได้ นั่นคือการสร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคม เกษียนทุกคนอยากพักผ่อน ผมเองก็อยากพักผ่อนอยากอยู่กับครอบครัว อยากดูแลสุขภาพ จนเมื่อเกษียนแล้ว ก็จะไปอยู่ข้างทางเพื่อดูคนอื่นทำงานบ้าง สำหรับงานในกทม.ซับซ้อน แต่ความท้าทายคือการทำให้ประชาชนมีความสุข กินอิ่มนอนหลับ มันไม่ง่าย แต่หากเราทำได้นั่นคือความสุข " ณรงค์ศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเดือนธ.ค. 2564
แฟ้มภาพ : ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ก่อนถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็ง