รมช.เกษตรฯ ห่วง 5 เขื่อนหลัก สั่ง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ทำ " ฝนหลวง"เติมน้ำ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับทราบสถานการณ์น้ำ 5 เขื่อน ที่อยู่ในภาวะ มีปริมาณกักเก็บน้ำ ในขณะนี้ ไม่ถึงร้อยละ 50 ห่วง หากปล่อยไว้ กระทบไปถึงภาคการเกษตร การขาดน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภค มอบ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งทำ " ฝนหลวง" เริ่มทันทีวันพรุ่งนี้
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งทำ " ฝนหลวง" เพื่อเติมน้ำให้กับเขื่อนหลัก ใน 5 ภูมิภาค เนื่องจากขณะนี้ทราบว่า มีแหล่งกับเก็บน้ำ มีปริมาณกักเก็บน้ำไม่ถึงร้อยละ 50 ของความจุอ่าง ซึ่งบางแห่ง มีปริมาณน้ำไม่ถึงร้อยละ 30-40 ของปริมาณความจุอ่าง ซึ่งอาจทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอให้ประชาชนได้ใช้ ในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ทราบว่ามีน้ำไม่ถึงร้อยละ 40 ซึ่งหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ก็จะส่งผลกระทบต่อเขื่อนรองลงมา ที่จะไม่สามารถส่งน้ำให้กับเกษตรกร และกระทบไปถึง น้ำใช้ในการอุปโภค - บริโภค
ทั้งนี้สถานการณ์ภัยแล้ง อันมีปัจจัยมาจาก ปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) เป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้เกิดภาวะความแห้งแล้งในประเทศไทย และภาวะฝนทิ้งช่วง ขณะที่ภัยความแห้งแล้งอาจทำให้เกิดไฟป่า ทำลายระบบนิเวศ ดังนั้นการเตรียมการป้องกันและบรรเทาปัญหา จึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมการรับมือ ขณะเดียวกันแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีฝนตกในทุกภูมิภาค แต่ก็ยังไม่สามารถเติมน้ำให้กับเขื่อน เพื่อเป็นทุนสำรองในการรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ
" ในฐานะที่กำกับงานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้รับรายงานจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ถึงสถานการณ์ในขณะนี้ จึงสั่งให้เร่งเติมน้ำให้กับเขื่อนหลักหลายแห่งใน 5 ภูมิภาค โดยได้มอบหมาย อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ( สุพิศ พิทักษ์ธรรม ) , รองอธิบดีด้านปฏิบัติการ ( วีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ ) เร่งจัดทำฝนหลวงทันที ตามแผนจะเริ่มในวันจันทร์ ( 25 ก.ย.) โดย กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะทำการประชุมวางแผนเพื่อทำฝนหลวงร่วมกับทีมฝนหลวงซึ่งมีอยู่จำนวน 11 ศูนย์ทั่วประเทศ ด้วยเครื่องบินที่สามารถใช้การได้จำนวน 19 ลำ คาดว่าจะสามารถทำให้ฝนตกบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ภายใน3-4 วันนี้ จากนั้นก็จะทำการทยอยเติมน้ำในรูปแบบโฟกัสแบบอิ่มตัวด้วยศาสตร์พระราชา "
ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
.
เขา กล่าวว่า การทำฝนหลวงคือการเติมเต็มเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ เพราะแม้ว่าขณะนี้จะมีฝนตก แต่น้ำฝนก็ไม่ได้ตกเข้าไปในเขื่อนจึงทำให้น้ำต้นทุนเหลือน้อย อีกทั้งในอนาคตเมื่อเริ่มหมดฤดูฝน ก้อนเมฆบนฟ้าก็จะไม่มีพลังงาน ไม่มีความชื้นเพียงพอ จะเป็นเรื่องยากที่จะทำฝนเทียม การทำฝนหลวงได้นำสูตรของศาสตร์พระราชามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก่อนที่จะหมดฤดูฝนนี้ ซึ่งแนวทางนั้น ในจุดที่มีการปฏิบัติการทีมฝนหลวงจะขึ้นบินโปรยสารเคมี เพื่อทำให้ก้อนเมฆเกิดพลังงาน ให้มีการก่อตัวยกตัวขึ้นก่อน จากนั้นทีมฝนหลวงก็จะทำการโจมตีก้อนเมฆด้วยสารเคมีและทำให้เกิดฝนตกลงมาตรงเป้าหมายได้ "ภายหลังจากปฏิบัติการที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เรียบร้อย กรมฝนหลวงและการบินเกษตรออจะดำเนินการทำฝนต่อเนื่อง เพื่อเติมเขื่อนสำคัญๆ ให้ครบ 31 เขื่อน ตามแผนของกรมชลประทาน ในทุกภูมิภาค โดยก่อนการทำฝนหลวงจะคำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำ และความจำเป็นตามแผนเติมน้ำของกรมชลประทาน" นายไชยา ระบุ
ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ทำ " ฝนหลวง" เพื่อเติมน้ำให้กับเขื่อนหลัก เริ่มดำเนินการ วันจันทร์ที่ 25 ก.ย.
.